พม.ปรับหลักเกณฑ์สมัคร ‘อพม.’ ตั้งเป้าทุกหมู่บ้านเพิ่ม 3.9 แสนคน

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

พม.ปรับหลักเกณฑ์สมัคร ‘อพม.’ ตั้งเป้าทุกหมู่บ้านเพิ่ม 3.9 แสนคน

นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. ร่วมประชุมด้วยว่า ตามที่ พม.ได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มจำนวนอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ให้กระจายทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ หรือประมาณ 3.9 แสนคน จากปัจจุบันมี อพม.ที่ผ่านการอบรมแล้ว 1 แสนกว่าคน แต่ทั้งนี้ พบว่าเนื่องจากโควิด-19 ระบาดต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถจัดอบรมและประเมินหลักสูตร 3 วัน 2 คืน เพื่อเพิ่ม อพม.ตามเป้าหมายได้ ครั้นจะอบรมแบบอีเลิร์นนิ่งแล้วสอบๆ นั้น ก็มีปัญหา เนื่องจากผู้สมัครส่วนใหญ่เป็นประชาชนสูงอายุ ที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านเทคโนโลยี ที่ประชุมจึงพิจารณาปรับหลักเกณฑ์การสมัคร ให้เป็นการเรียนรู้และประเมินผ่านการปฏิบัติงานจริงไปเลย อย่างวิชาบังคับที่ต้องเรียนรู้และประเมินคือ การสำรวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม, การเยี่ยมบ้านให้คำปรึกษาเพื่อเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐ, การประสานส่งต่อความช่วยเหลือ

ปลัด พม.กล่าวอีกว่า นอกนั้นเป็นวิชาเลือก อาทิ เข้าร่วมกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งของ พม., เข้าศึกษาดูงานหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งในสังกัด พม., แจ้งข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม ให้ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 เข้าช่วยเหลือ, ประสานภาคเอกชนและองค์กรท้องถิ่น ระดมทุนทรัพย์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แต่ละกิจกรรมจะมีการประเมินโดย พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) นั้นๆ หากคะแนนภาพรวมเกินตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถรับบัตร อพม.ได้เลย โดยขณะนี้กำลังประสานสำนักงาน พมจ.แต่ละจังหวัด สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ทันที ทั้งนี้ ต้องบอกว่างาน อพม.เป็นงานที่ทำด้วยใจจริงๆ เราไม่มีค่าตอบแทนให้ แต่หากได้ทำงานช่วยเหลือสังคมจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จะเสนอรายชื่อให้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้

คิวอาร์โค้ดสมัคร อพม.
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image