สธ.เผยไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้วเกือบ 300 คน ยังไร้ผลข้างเคียง เตือน ปชช.อย่าเชื่ออ้างช่วยลัดคิวได้

สธ.เผยไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้วเกือบ 300 คน ยังไร้ผลข้างเคียง เตือน ปชช.อย่าเชื่ออ้างช่วยลัดคิวได้

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยดีขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายของ ศบค.ที่เริ่มมีการผ่อนคลาย วันนี้เป็นวันแรกเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยสรุปข้อมูลเมื่อช่วง 12.00 น. สรุปข้อมูลเมื่อช่วงเที่ยง สถาบันบำราศนราดูร ฉีดวัคซีนแล้ว 95 คน ที่จังหวัดสมุทรสาครฉีดไป 159 คน ทั้งหมดยังไม่พบรายใดที่มีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด ล่าสุดวันนี้ได้กระจายวัคซีนไปยังจังหวัดเป้าหมาย อีก 79,240 โดส รวมมีการกระจายวัคซีนไปแล้ว 2 วัน จำนวน 110,000 โด้ส เดือนเมษายน 800,000 ก็จะเร่งกระจายและฉีดให้ครอบคลุมต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า แม้ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ต้องมีมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้นคือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ รวมถึงพื้นที่เสี่ยงยังต้องมีการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกด้วย เช่น สมุทรสาคร

นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการรับวัคซีน ลงทะเบียนตรวจสอบรายชื่อ ตรวจร่างกายประเมินความเสี่ยง คนมีข้อห้ามไม่ควรฉีดคือ แพ้วัคซีน หญิงตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัวที่ยังควบคุมไม่ดี และป่วยเฉียบพลัน ทั้งนี้ เมื่อผ่านการประเมินแล้วจะแจ้งสิทธิให้ทราบ และมีการให้เซ็นเอกสารรับรองการยินยอม เมื่อฉีดแล้วจะมีการให้สังเกตอาการที่สถานพยาบาล 30 นาที และให้กลับบ้านไปพร้อมคำแนะนำในการดูแลตัวเอง เมื่อมีการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม ก็จะมีการออกใบรับรองให้

“ขอยืนยันว่าการรับวัคซีนนั้นดำเนินการฟรี อย่าหลงเชื่อคนที่มาแอบอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้ฉีดวัคซีนได้ก่อนคนอื่น แต่มีค่าใช้จ่ายนั้นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะถือว่าเข้าข่ายหลอกลวง” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ด้าน ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศูนย์เด็ก (โรคติดเชื้อ) รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวว่า วันนี้ทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 236 ล้านโดส ซึ่งการที่ประเทศไทยเริ่มฉีดวัคซีนวันนี้ไม่ถือว่าเร็ว หรือช้าเกินไป แต่การที่เราฉีดในวันนี้มีข้อดีคือ เราได้เห็นผลดีผลเสียจากประเทศที่มีการฉีดไปแล้ว ซึ่งวัคซีนที่ฉีดในไทย 2 ชนิด คือ ซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้า นั้นถือว่ามีความปลอดภัยมาก ไม่ปรากฏผลข้างเคียงรุนแรง มีอะไรมีเพียงการเจ็บบริเวณที่ฉีด ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว บางคนอาจจะมีอาการเป็นไข้ คลื่นไส้อาเจียนด้วยนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม นอกจากการติดตามอาการของผู้รับวัคซีนผ่านระบบที่วางไว้แล้วนั้น ขณะนี้ทางเราได้มีการเกาะติดสถานการณ์ในรพ.อย่างใกล้ชิด ว่ามีโรค หรือภาวะใดๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผลต่อไป

Advertisement

ศ.พญ.กุลกัญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนส่วนใหญ่จะเกิดใน 48 ชั่วโมง โดยเฉพาะใน 24 ชั่วโมงแระนั้นที่เจอเยอะคือ ปวดบริเวณฉีด ส่วนปฏิกิริยารุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หายใจติดขัด หน้ามืด เป็นลม ซึ่งอาจจะเป็นอาการแพ้รุนแรงนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ แต่น้อยมากๆ 1 ในหลายล้านโดส ซึ่งเรามีมาตรการเฝ้าระวังอยู่ ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมา เช่น วัคซีนชนิด mRNA จะพบการแพ้รุนแรงสูง แต่ของซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้านั้นพบน้อยกว่า 5 เท่า และไม่มีใครเสียชีวิต ที่สำคัญคือ เรากำหนดให้การฉีดวัคซีนทำในสถานพยาบาล มีบุคลากรการแพทย์ที่สามารถให้การรักษาได้ทันที หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เพราะฉะนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีมั่นใจสามารถปรึกษาแพทย์ได้

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศฯ กล่าวว่า วัคซีนทุกขวดที่ถูฉีดนั้นจะมีซีเรียลนัมเบอร์อยู่ ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ว่าหมายเลขได้ฉีดให้ใคร และจากนั้นทุกขวดที่ฉีดไปแล้วจะถูกเก็บไว้ในตู้เย็นของสถานพยาบาลเป็นเวลา 30 วัน เพื่อติดตามสถานการณ์ หากพบปัญหาอะไรจะได้มีการตรวจสอบย้อนกลับได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image