รอบ 24ชม. 319 คน รับวัคซีนโควิด-19 ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ศบค.ย้ำ!หน้ากากยังจำเป็น
วันนี้ (1 มีนาคม 2564) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน ว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่สถาบันบำราศนราดูร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกของประเทศไทย โดยเป็นการฉีดวัคซีนซิโนแวคให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. ซึ่งการฉีดวัคซีนเป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับสาธารณสุขไทย ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีมาตรการผ่อนคลายออกมา ซึ่งจะทำให้คนไทยเริ่มกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติ
“ผมก็ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็เคยฉีดวัคซีนมาหลายชนิด แต่ชนิดนี้สบายมาก ต่างจากวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะรู้สึกปวดเจ็บบริเวณแขนหลังจากได้รับวัคซีน ซึ่งวัคซีนโควิด-19 เจ็บน้อยกว่ามาก ประสบการณ์กว่า 24 ชั่วโมง ที่วัคซีนอยู่ในตัวผม คงกำลังทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันกันอยู่และรออีก 3 สัปดาห์ ก็จะไปฉีดเข็มที่ 2 ต่อไป ในวันที่ 22 มีนาคม ตามนัดหมาย วันนี้ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก หารือกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องสำคัญการรายงานการฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2564) ซึ่งผ่านไปด้วยดี จะเห็นภาพของรัฐมนตรีว่าการ สธ. ยิ้มหน้าตาแจ่มใส โดยมีนายกฯ อยู่เชียร์ด้วย เป็นภาพที่น่ารักมาก หลายคนก็บอกว่าไม่ได้เจ็บไปกว่าวัคซีนชนิดอื่นๆ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การกระจายวัคซีนไปทั่วประเทศไทย ข้อมูลวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ เพื่อเริ่มฉีดในวันนี้ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ 3,520 ราย ตาก 5,000 โดส นครปฐม 3,560 โดส ราชบุรี 2,520 โดส สมุทรสงคราม 2,000 โดส ปทุมธานี 8,000 โดส สมุทรปราการ 6,000 โดส กรุงเทพมหานคร 33,600 โดส สมุทรสาคร 15,040 โดส ขณะที่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นนทบุรี และชลบุรี ซึ่งจะมีข้อมูลที่อัพเดตชัดเจน โดย สธ. จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดวันนี้ เวลา 10.00 น. จากแอพพลิเคชั่นไลน์บัญชีทางการ หมอพร้อม พบว่า มีการลงทะเบียนฉีดวัคซีนไปแล้ว 319 คน ได้แก่ นครปฐม 14 คน นนทบุรี 93 ราย สมุทรสาคร 210 ราย สมุทรปราการ 2 ราย ยังไม่พบผู้มีผลข้างเคียงรุนแรงหลังได้รับวัคซีน
อย่างไรก็ตาม นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในจ.สมุทรสาคร ได้รับวัคซีนระยะแรกของซิโนแวค 35,000 โดส วางแผนกระจายไปในบุคลากรทางการแพทย์ 8,000 ราย เจ้าหน้าที่ด่านหน้าสัมผัสผู้ติดเชื้อ 2,274 ราย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 2,070 ราย ผู้ที่มีโรคประจำตัว 16,000 ราย และประชาชน 5,000 ราย ทั้งนี้ ที่ประชุมก็ได้พูดคุยกันว่า จำนวนวัคซีนในระยะเริ่มต้นเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่มีหลายแสนคน ยังไม่มีผลต่อการป้องกันโรค ดังนั้น ต้องเน้นย้ำสุขอนามัยส่วนบุคคลไว้ตลอด การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ ขณะเดียวกัน จ.สมุทรสาคร ก็ได้วางแผนลงไปตรวจหาแอนติบอดี้ในเลือด เพี่อหาภูมิคุ้มกันของกลุ่มผู้ที่อยู่ในบับเบิ้ล แอนด์ ซีล คาดว่าใช้เวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ยังไม่มีตัวเลขส่วนนี้ออกมา ต้องรอให้ผลข้อมูลชัดเจนก่อน
“แม้ทั่วโลกจะบอกว่าเป็นคำตอบของการผ่อนคลายมาตรการ แต่หลายประเทศต้องใช้เวลา รวมถึงประเทศไทยเราด้วย เป็นเวลาการรอคอย ให้วัคซีนทำงาน เมื่อฉีดแล้วก็รอให้เกิดภูมิคุ้มกัน หลังจากนั้นก็ต้องมีชีวิตวิถีใหม่ แต่ต้องพึ่งพาอาศัยสุขอนามัยส่วนตัว ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นเหมือนวัคซีนส่วนตัวของเรา แม้วัคซีนจะทำให้เราไม่ป่วยหนัก แต่ไม่ได้ลดการแพร่เชื้อ เพราะเชื้อยังอยู่ในตัวเราได้ หน้ากากอนามัยจึงยังจำเป็น หากพบคนไม่สวมใส่ ก็ขอให้เตือนกันด้วยความเมตตา เพื่อให้เราอยู่ด้วยกันตลอดไป” โฆษก ศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการจัดสอบคัดเลือกนักเรียนเขียนเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในวันเสาร์ที่ 6 มีนาคมนี้ ซึ่งจะมีนักเรียนเข้าร่วมการสอบประมาณ 1.3 หมื่นคน จากทั่วประเทศ ใช้ห้องสอบ 2 ห้อง คือ อาคารอิมแพคฟอรั่ม 6,624 ที่นั่งโดยประมาณ และอาคาร 5-8 จำนวน 6,624 ที่นั่งโดยประมาณ และจัดแบ่งผู้ที่มาจากกลุ่มจังหวัดที่มีสถานการณ์คล้ายคลึงกันให้อยู่ด้วยกัน มีการวัดไข้ ตามมาตรฐาน และลดระยะเวลาการสอบ มาอยู่ที่เวลา 08.30 -14.00 น. ให้รับประทานอาหารกลางวันในห้องสอบเลย ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองส่งบุตรหลานแล้ว กลับบ้านไปก่อน แล้วค่อยกลับมารับอีกครั้งหลังเวลาสอบเสร็จ ถ้าจะรอก็ขอให้ลดจำนวนคนรอ สำหรับประชาชนทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองทองธานี
