ไทยพบติดโควิด-19 อีก 35 ราย ไม่มีตายเพิ่ม สมุทรสาครยังเจอมากสุด

ไทยพบติดโควิด-19 อีก 35 ราย ไม่มีตายเพิ่ม สมุทรสาครยังเจอมากสุด
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้ พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,108 ราย
หายป่วยแล้ว 25,483 ราย และเสียชีวิตสะสม 84 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อวันนี้ 35 คน แยกเป็น 1.ผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 10 คน 2.ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ จำนวน 25 คน แบ่งเป็น ตรวจหาเชื้อเชิงรุก 8 คน ตรวจหาเชื้อโดยผู้ติดเชื้อเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล 17 คน โดยตรวจพบที่ จ.สมุทรสาครมากที่สุด 12 คน แยกเป็น ผู้ติดเชื้อ ที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุก 3 คน คนไทย 1 คน คนต่างด้าว 2 คน ผู้ติดเชื้อ ที่ไปตรวจที่โรงพยาบาล 9 คน คนไทย 4 คน คนต่างด้าว 5 คน
ทั้งนี้ ใน จ.สมุทรสาคร มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกสะสมทั้งหมด 203,028 คน (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 จำนวน 1,080คน) พบผู้ติดเชื้อ 13,491 คน คิดเป็น ร้อยละ 6.64

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ทั่วโลกพบติดเชื้อสะสมกว่า 115 ล้านราย เสียชีวิตรวม 2.5 ล้านคน โดยสหรัฐ อินเดีย บราซิล รัสเซีย และสหราชอาณาจักร (ยูเค) ยังสูงเป็น 5 อันดับ ขณะที่ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 114

“อย่างไรก็ตาม หากนับการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – วันที่ 3 มีนาคม 2564 พบสะสม 21,871 ราย โดยหายป่วยแล้ว 21,306 ราย ส่วนที่ยังรักษาอยู่มี 541 ราย นอนอยู่ใน รพ.สนาม 86 ราย และรักษาใน รพ. 454 ราย ทั้งนี้ เมื่อแยกกลุ่มใหญ่ๆ 3 กลุ่ม คือ สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ พบว่า ที่ จ.สมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ ร้อยละ 77.97 หรือ 16,253 ราย ส่วนกรุงเทพฯ ร้อยละ 4.68 หรือ 975 ราย ขณะที่จังหวัดอื่นอยู่ที่ ร้อยละ 17.36 หรือ 3,618 ราย” โฆษก ศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า โดยรายละเอียดการติดเชื้อในประเทศ 17 ราย พบว่า กระจายตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ กรุงเทพฯ 3 ราย ปทุมธานี 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย และ สมุทรสาคร 9 ราย ส่วนจากการค้นหาเชิงรุก 8 ราย ทำที่ ปทุมธานี 5 ราย และ สมุทรสาคร 3 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการ ขณะที่ในสถานกักกันทุกประเภท 10 รายนั้น มาจาก ตุรกี 1 ราย กานา 2 ราย เคนยา 1 ราย ไนจีเรีย 2 ราย และ   เมียนมา 4 ราย ซึ่งเมียนมาเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ

Advertisement

“ต้องขอบคุณทางทีมฝ่ายมั่นคงที่ได้สกัดไว้ ดังนั้น ขอย้ำว่า อย่าลักลอบ ขอให้เข้ามาถูกต้อง เรามีพื้นที่ดูแลท่าน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการเปลี่ยนแปลงของรายจังหวัดในช่วงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – วันที่ 3 มีนาคม พบว่า จังหวัดติดเชื้อเริ่มลดลง โดยมาถึงสัปดาห์นี้เหลือเพียง 10 จังหวัด จึงต้องขอพี่น้องทุกๆจังหวัดในประเทศไทยร่วมด้วยช่วยกันทำให้ดีที่สุด ซึ่งมีพื้นที่ไม่ติดเชื้อ 14 จังหวัด และเกิน 28 วันมาแล้ว ไม่พบติดเชื้อ 40 จังหวัด และจังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อในช่วง 15-28 วัน อีก 3 จังหวัด รวมทั้งมีอีก 5 จังหวัด ที่ไม่พบติดเชื้อในช่วง 7-14 วันที่ผ่านมา ขณะที่จังหวัดยังพบติดเชื้อยังคงเป็นพื้นที่เดิม คือ ปทุมธานี และ สมุทรสาคร

Advertisement

“อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณี จ.ปทุมธานี พบติดเชื้อที่เชื่อมโยง จ.ปทุมธานี รวมจำนวน 676 ราย พบว่า เพศหญิงมากกว่าเพศชายเล็กน้อย โดยเป็นคนไทยมากที่สุด 386 ราย รองลงมา เมียนมา 272 ราย นอกนั้น ลาว กัมพูชา และอังกฤษ โดยอาชีพส่วนใหญ่เป็นค้าขาย เพราะพบในตลาด ทั้งนี้ พบการกระจายไปยัง 13 จังหวัด ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – วันที่ 2 มีนาคม 2564 โดยกระจายน้อยกว่า 5 ราย ใน 5 จังหวัด คือ ขอนแก่น ชัยนาท เพชรบุรี นครปฐม และนครราชสีมา และมากกว่า 5-10 ราย มี 5 จังหวัด คือ นครนายก นนทบุรี สมุทรปราการ สระบุรี และ อ่างทอง และติดเชื้อมากกว่า 11 ราย มี 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพฯ” โฆษก ศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่เราพยายามช่วยกันให้จำกัดวงในการติดเชื้อให้ได้ โดยข้อมูลตรงนี้ยังพบว่า ไปหลายตลาด โดยตลาดพรพัฒน์มากที่สุด ตลาดสุชาติ ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดรังสิต ตลาดอื่นๆ เช่น ตลาดไท ฯลฯ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องมีสุขอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะตลาด เพราะทุกคนต้องพึ่งพาเรื่องอาหาร จึงขอความร่วมมือพ่อแม่พี่น้องด้วย อย่างไรก็ตาม จากรายงานข้อมูลยังพบว่า กรณีนี้ยังพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1,055 ราย โดย 87 ราย ให้ประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดการควบคุมโรคอยู่ ทั้งนี้ การกรณีค้นหาเชิงรุกในชุมชนและการตั้งรับยังใช้มาตรการนี้ทั้งหมด โดยข้อมูลการค้นหาเชิงรุกในสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 – วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 มีการส่งตรวจ 34,573 ราย และรอผลอยู่ 396 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image