ฟิลลิป มอร์ริส แจงพบ ยสท.ดันส่งออกช่วยชาวไร่ ชี้ไทยล้มเหลวคุมยาสูบเหตุโฟกัสผิดจุด

ฟิลลิป มอร์ริส แจงพบ ยสท.ดันส่งออกช่วยชาวไร่ ชี้ไทยล้มเหลวคุมยาสูบเหตุโฟกัสผิดจุด

จากกรณีการรายงานข่าวการประชุมระหว่างการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (PMTT) โดยกลุ่มรณรงค์ต่อต้านยาสูบได้เรียกร้องให้ผู้ว่าการ ยสท.ทบทวนบทบาทตนเองนั้น

นายเจอรัลด์ มาร์โกลิส ผู้จัดการใหญ่ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย กล่าวว่า การเข้าพบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือแนวทางในการช่วยเหลืออุตสาหกรรมยาสูบไทย โดยเฉพาะชาวไร่ยาสูบที่ต้องการส่งเสริมการส่งออกใบยาสูบไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบที่ผลิตจากประเทศไทยไปยังตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยสร้างรายได้และความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมยาสูบไทย และชาวไร่ยาสูบกว่า 3 หมื่นครอบครัวในประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างรายได้การส่งออกที่เพิ่มขึ้นให้กับประเทศไทยอีกด้วย

นายมาร์โกลิส กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการหารือทางธุรกิจและพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ มุมมอง ข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่างๆ ในอุตสาหกรรม

“แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เครือข่ายรณรงค์ต่อต้านยาสูบกลับหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็น โดยไม่ได้สนใจข้อเท็จจริงที่ว่าการหารือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับรัฐวิสาหกิจของประเทศและชาวไร่ยาสูบ” นายมาร์โกลิส กล่าวและว่า การรณรงค์ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ ป้องกันเยาวชนจากการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือการลดอันตรายจากการใช้ยาสูบ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่บริษัทสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่การที่มีการอ้างถึงกรณีพิพาทคดีนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์และรัฐบาลไทยอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งคดีดังกล่าว องค์การการค้าโลกมีคำตัดสินให้ประเทศฟิลิปปินส์ชนะข้อพิพาทตั้งแต่ปี 2554 และยังให้ชนะในชั้นอุทธรณ์ รวมทั้งชนะอีก 2 ครั้ง ในชั้นระงับข้อพิพาท และประเทศไทยยังคงไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำตัดสินขององค์การค้าโลก

Advertisement

นายมาร์โกลิส กล่าวว่า ชัดว่ากลุ่มรณรงค์ต่อต้านยาสูบพุ่งเป้าโจมตีบริษัทยาสูบมากกว่าที่จะพยายามหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อช่วยลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ จะเห็นได้ว่าความพยายามในการรณรงค์ต่อต้านยาสูบ ซึ่งรวมถึงการออกกฎระเบียบที่สุดโต่งและการต่อต้านการสูบบุหรี่ตลอด 20 ปีกว่าปี บรรลุผลสัมฤทธิ์เพียงเล็กน้อยต่อผู้สูบบุหรี่ อัตราผู้สูบบุหรี่เฉลี่ยในประเทศยังคงคงที่อยู่ที่ประมาณร้อยละ 19-20 มาตั้งแต่ปี 2550 ทั้งนี้ บริษัทยินดีทำงานร่วมกับเครือข่ายฯ เพื่อแสวงหาแนวทางที่ดีกว่าในการบรรลุเป้าหมายลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศ โดยการศึกษางานวิจัยและให้ข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนและเป็นกลาง ซึ่งงานวิจัยและข้อมูลจำนวนมากดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่ที่ตัดสินใจสูบบุหรี่ต่อไปมีโอกาสได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่เป็นทางเลือกแทนการสูบบุหรี่ได้อย่างถูกกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image