‘พีมูฟ’ แถลงตำหนิ รมว.ทส.เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ปมแก้บางกลอย ย้ำทำให้ ปชช.เชื่อมั่นคำสั่งไม่ได้
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ เรื่อง ขอตำหนิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ต่อ กรณีการแก้ปัญหาบางกลอย
โดยระบุว่า ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน ระหว่างตัวแทนรัฐบาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคี #SAVEบางกลอย และชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ได้เห็นชอบร่วมกัน โดยจัดทำบันทึกข้อตกลงเพื่อแก้ไขปัญหากรณีบางกลอย-ใจแผ่นดิน
โดยมีข้อเสนอเร่งด่วน 3 ข้อ ดังนี้
1.ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากชุมชนบางกลอยทั้งหมด
2.หยุดการสกัดการขนส่งเสบียง รวมถึงการตั้งจุดสกัดเดิม และที่จุดเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งหมด
3.ยุติคดีของสมาชิก ภาคี #saveบางกลอย ทั้งหมด 10 คน กรณีการยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
โดยมีข้อตกลงกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประกอบการทำงานร่วมกัน ซึ่งสามารถนำไปสู่การหาแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของพี่น้องกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย 6 ข้อ ดังนี้
1.ให้ชาวบ้านที่ประสงค์กลับไปทำไร่หมุนเวียน และดำรงวิถีชีวิตวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่ที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน สามารถกลับขึ้นไปอยู่อาศัย ทำกิน และดำเนินชีวิตตามวิถีดั้งเดิมของบรรพบุรุษได้ โดยการรับรองสิทธิในการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม
2.ยุติการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปตั้งจุดตรวจและลาดตระเวนในหมู่บ้านบางกลอยล่าง รวมทั้งยุติการข่มขู่ คุกคาม หรือใช้ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับชาวบ้าน 36 ครอบครัวที่กลับไปอยู่อาศัยและทำกินอยู่ที่บ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน
3.ยุติการขัดขวางการขนส่งข้าว อาหาร และสิ่งของจำเป็นไปให้กับชาวบ้านบางกลอย
4.ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการพื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะมาตรการด้านการยุติการจับกุม ดำเนินคดี และการคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมในรูปแบบไร่หมุนเวียน
5.ในกรณีที่ชาวบ้านครอบครัวใดประสงค์จะอยู่ที่บ้านบางกลอยล่าง ให้รัฐดำเนินการจัดสรรที่ดิน ทั้งที่ดินอยู่อาศัยและทำกินให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ เพื่อให้สามารถดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างมั่นคง
6.รัฐจะต้องยุติการดำเนินการสนธิกำลังกันของเจ้าหน้าที่รัฐได้ตั้งจุดสกัด เดินลาดตระเวนและตรวจค้นสร้างแรงกดดัน และความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านบางกลอย และมีมาตรการในการคุ้มครองสวัสดิภาพ
หลังจากนั้น รัฐมนตรีฯได้ปฏิบัติการ “ยุทธการต้นน้ำเพชร” โดยการสนธิกำลังหลายหน่วยงาน และการผลักดันคนจากพื้นที่ใจแผ่นดินลงมา ตามที่เป็นข่าวผ่านสื่อต่างๆ นั้น
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นที่เป็นธรรม (ขปส.) จึงขอตำหนิรัฐมนตรีว่าการกระทรวทรัพย์ฯที่กลายเป็นคนเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ทั้งที่ตัวเองได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อศึกษาหาทางออกต่อการแก้ปัญหา กรณีบางกลอยขึ้น พร้อมให้ลงพื้นที่ในการศึกษาการแก้ปัญหาอยู่ แต่ปฏิบัติการกดดันขนย้ายชาวบ้านลงจากใจแผ่นดิน พร้อมกับคณะทำงานกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ด้วย
ดังนั้น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส) จึงขอตำหนิการปฏิบัติงานของรัฐมนตรี ดังนี้
1.รัฐมนตรีไม่สามารถบริหาร กำกับ บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพย์ให้ปฏิบัติตามนโยบายรัฐมนตรีได้
2.รัฐมนตรีไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในคำสั่ง และนโยบายการแก้ปัญหาประชาชนได้อีกต่อไป เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในพื้นที่ยังไม่เชื่อฟังคำสั่งรัฐมนตรี
3.รัฐมนตรีขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดข้อมูลที่รอบด้านในการตัดสินใจแก้ปัญหาประชาชน รับฟังเพียงหน่วยราชการที่ไม่ฟังเสียงประชาชน รัฐมนตรีจึงเป็นเพียงเครื่องมือให้ราชการกำกับ ชี้นำ ให้ดำเนินการเท่านั้น
ขปส.จึงขอย้ำถึงความสิ้นหวังต่อรัฐมนตรีที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ไร้จุดยืนในบทบาทในการเป็นรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ในการกำกับและบริหารงานกระทรวง เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาประชาชน อย่างเป็นธรรม เชื่อมั่นในพลังประชาชนในการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม