แรงงาน 7 องค์กร พบ รมว.สุชาติ ขอบคุณผลักดัน ม33 เรารักกัน-วอนแก้ปมข้อพิพาท
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นางอภันตรี เจริญศักดิ์ รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และคณะ นำลูกจ้างจาก 7 องค์กรแรงงาน จำนวน 250 คน เข้าพบ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทด้านแรงงานตามขั้นตอนกฎหมายคุ้มครองแรงงาน พร้อมขอบคุณที่ได้ผลักดันและช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 9.27 ล้านคน ให้ได้สิทธิในโครงการ ม33 เรารักกัน รายละ 4,000 บาท เป็นผลสำเร็จ
นางอภันตรี กล่าวว่า ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ได้ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน โดยผลักดันโครงการ ม33 เรารักกัน เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ มาก่อน แต่รัฐบาลและกระทรวงแรงงานเห็นความสำคัญ แม้ว่าเงินจำนวน 4,000 บาท จะไม่มาก แต่ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของผู้ใช้แรงงานได้มาก ซึ่งเงินเหล่านี้ยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวโดยเร็วอีกด้วย
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผู้ใช้แรงงานทุกคน ทุกกลุ่ม ให้ดูแลดุจคนในครอบครัว จึงได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานทำงานเชิงรุก ติดตามให้ความช่วยเหลือ และให้การสนับสนุนผู้ใช้แรงงานในทุกมิติ และว่า กรณีปัญหาด้านแรงงานของแต่ละสหภาพแรงงานนั้น ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เข้าไปเร่งรัด ติดตาม และรายงานผลกลับไปโดยเร็วที่สุด
สำหรับแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทแรงงาน ได้แก่ 1.สหภาพแรงงาน (สร.) ซัมมิทแหลมฉบัง โอโต บอดี้ กรณีนายจ้างสร้างหลักฐานการกลับเข้ามาทำงาน โดยจ่ายค่าจ้างให้พนักงาน จำนวน 7 วัน และเลิกจ้าง พร้อมนำเงินส่งสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นเหตุให้ลูกจ้างเสียสิทธิกรณีว่างงานในงวดสุดท้าย 2.สหภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย (บริษัท โตโยต้า โกเซรับเบอร์ ประเทศไทย จำกัด) บริษัทกล่าวหา นายสุนทร เพชรอ้อน ว่ายุยงปลุกปั่นพนักงานและให้นายสุนทร กับพวก 14 คน อยู่นอกบริษัทอ้างปรับปรุงบริษัท และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เรื่อยมา สร.ได้ยื่นคำร้องขอให้ ครส.พิจารณาวินิจฉัยและออกคำสั่งว่าการกระทำของบริษัทเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 และให้บริษัทยกเลิกคำสั่งให้พนักงาน 14 คน กลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งเดิมรวมถึงจ่ายเงินพิเศษให้กับพนักงาน 14 คน แต่พนักงาน 14 คน ไม่ได้รับเงินพิเศษแต่อย่างใด
3.สหภาพแรงงานผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไทย (ลูกจ้างของบริษัท พงศ์พาราโคนันรับเบอร์ จำกัด) นายจ้างยื่นคำร้องต่อศาลแรงงานขออนุญาตเลิกจ้างนายสมคิด ของนา กับพวก 8 คน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงวันที่ 30 มกราคม 2564 ซึ่งมิชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากศาลยังไม่อนุญาตให้บริษัทเลิกจ้างคดีอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลแรงงาน 4.สหภาพแรงงานยาชิโยด้า แห่งประเทศไทย กรณีบริษัทไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เลิกจ้างกรรมการ สร.โดยไม่มีข้อหาเนื่องจากนายจ้างไม่ต้องการให้ลูกจ้างไปยื่นคำร้องที่ สสค.ปทุมธานี และอยู่ในระหว่างเรียกนายจ้างไปชี้แจงข้อเท็จจริง
5.สหภาพแรงงานบริษัท สยามยาชิโยะ จำกัด บริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงงาน พ.ศ.2541 โดยใช้อำนาจโดยไม่ชอบในการกลั่นแกล้งพนักงานไม่ให้สามารถทำงานต่อไปได้ จนไม่ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย 6.สหภาพแรงงานวิงสแปนสัมพันธ์ฯ ประเด็นปัญหาบริษัท รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานไทย จำกัด อาทิ เรื่องการโอนย้ายพนักงานที่ไม่เป็นธรรม การประกาศใช้นโยบายเวิร์ก ฟรอม โฮม (Work From Home) กับพนักงานตรวจค้นรายเดือน (บังคับให้หยุดงาน) และหักเงินเดือนพนักงาน หากพนักงานไม่มาทำงานในวันที่สั่งหยุด ให้พนักงานรักษาการณ์ทำงาน 8 ชั่วโมง โดยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัวที่จำเป็น ทำให้พนักงานหญิงมีปัญหาสุขภาพ บริษัทฯ ออกประกาศเพิ่มชั่วโมงการทำงานจาก 8 ชม. เป็น 12 ชม. ในแผนกรักษาความปลอดภัย บริษัทฯ ไม่มีการจัดหาห้องพยาบาล และห้องพักผ่อนไว้ให้พนักงาน บริษัทฯ ไม่มีคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวะอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ตามกฎหมาย ฯลฯ และ 7.บริษัท ยูชิน ประเด็นติดตามความคืบหน้าคำสั่งคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563