อนุทิน เบรกเอกชนซื้อวัคซีนโควิดจาก อภ. ขอลุยฉีด ปชช.ให้ครอบคลุม แง้มไอเดียฉีดนอก รพ.

อนุทิน เบรกเอกชนซื้อวัคซีนโควิดจาก อภ. ขอลุยฉีด ปชช.ให้ครอบคลุม แง้มไอเดียฉีดนอก รพ.

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ.เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากซิโนแวค ล็อตต่อไป 800,000 โดส ซึ่งทางประเทศจีนรับปากว่าจะส่งเข้ามาในวันที่ 20 มีนาคมนี้ แต่ตนก็ยังไม่กล้าพูดยืนยันว่า “แน่นอน” จนกว่าของจะส่งขึ้นเครื่องบิน ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการบริการฉีดวัคซีนให้ประชาชนนอกสถานพยาบาล แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมแพทย์ มีการเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และว่า ส่วนตัวจะเข้ารับวัคซีนเข็ม 2 จากชิโนแวค ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ โดยเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ตนได้สว็อบ (Swab) หาเชื้อโควิด-19 ผลไม่พบการติดเชื้อ แต่ยังไม่ได้เจาะเลือดตรวจหาภูมิคุ้มกันโรค

“สำหรับวัคซีนของแอสตร้าฯ ตามมาตรฐาน 1 ขวด จะฉีดได้ประมาณ 10 เข็ม แต่ใส่ตัววัคซีนมาเกินอยู่แล้วใน 1 ขวด มี 6.5 มิลลิลิตร ซึ่งในส่วนที่เหลืออยู่นั้น หากดำเนินการโดยคนที่มีความชำนาญจะสามารถฉีดได้ถึง 12 เข็ม เช่นในวันที่ฉีดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขวดเดียวกันนั้น สามารถฉีดได้ถึง 12 เข็ม ซึ่งมองว่าหากการฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ จากนี้ไป นอกจากจะไม่ต่ำกว่ามาตรฐานคือ 10 เข็ม แล้วหากพยายามฉีดได้ถึง 11–12 เข็ม ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีนมากขึ้น” นายอนุทินกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีมีรายงานข่าวว่าขณะนี้มีโรงพยาบาล (รพ.) เอกชน ได้สั่งซื้อวัคซีนจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งเป็นผู้แทนนำเข้าวัคซีนอยู่ในขณะนี้ โดยมีระบุตัวเลขการสั่งจองวัคซีนอย่างชัดเจน นายอนุทินกล่าวว่า อภ.นำวัคซีนเข้ามาภายใต้คำสั่งซื้อจากกรมควบคุมโรค ฉะนั้นตราบใดที่ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง ก็จะไม่มีเหลือมาขายให้กับภาคเอกชน

เมื่อถามต่อถึงกลไกที่ภาคเอกชนจะไปขอซื้อต่อจาก อภ.จะต้องเกิดขึ้นหลังเดือนมิถุนายน ที่มีวัคซีนทั่วถึงคนไทยแล้ว นายอนุทินกล่าวว่า คนไทยต้องได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงและครอบคลุมก่อน เราซื้อวัคซีนจากซิโนแวค มาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะวัคซีนหลักของเราคือ แอสตร้าเซนเนก้า ที่สามารถนำมาฉีดให้ประชาชนได้ในเดือนมิถุนายน ฉะนั้น วัคซีนซิโนแวค เราซื้อได้เต็มที่ได้แค่ 2-5 ล้านโดส เพื่อใช้ในช่วงนี้จนถึงเดือนมิถุนายน และหลังจากนั้นเราก็จะเริ่มฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เดือนละ 5-10 ล้านโดส

Advertisement

“ขณะนี้ มีวัคซีนซิโนแวคยี่ห้อเดียวที่สามารถส่งมาในช่วงนี้ถึงเดือนพฤษภาคมได้ และเมื่อมีการระบาดขึ้น จากเดิมที่เราจะนำวัคซีนซิโนแวค มาฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมตัวทำให้เขามีภูมิต้านทาน ก่อนที่จะไปลุยฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ในเดือนมิถุนายน แต่ในวันนี้มีการระบาดขึ้นมา เช่น บางแค ระบาดเป็นหย่อมๆ เราก็เอาวัคซีนที่มีอยู่มาฉีดก่อน เพื่อป้องกันการระบาดของโรคในเวลาที่เหมาะสม อย่างเต็มที่ เดือนมิถุนายน เราอาจซื้อซิโนแวค เพื่อกันเหนียวไว้ หากมีปัญหาขรุขระจากแอสตร้าฯ แต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามสัญญาและไม่มีปัญหา” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า แต่หากภาคเอกชนสามารถสั่งซื้อวัคซีนได้ ก็ขอให้นำเข้ามาขึ้นทะเบียนในประเทศได้ทันที ตนจะไปเร่งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ด้วยตัวเอง แต่ในตอนนี้บริษัทผลิตวัคซีนส่วนใหญ่ มีเงื่อนไขในการจำหน่ายวัคซีนให้กับรัฐบาล เพราะว่าเป็นการใช้ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ในความรับผิดชอบที่มีจำกัด จึงต้องขายให้กับรัฐบาล เพราะหากมีเหตุไม่พึงประสงค์ก็จะอยู่ภายใต้รัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากประชาชนฉีดวัคซีนครอบคลุมจำนวนมากแล้ว แล้วเอกชนมาเจรจากับ อภ.ให้เปิดออเดอร์นำเข้าวัคซีน เพราะเขาก็มีหน้าที่ขายยาอยู่แล้ว ก็ยอมรับได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขว่า เป็นการนำเข้าตามสิทธิ แต่หากฉีดแล้วมีอันตรายขึ้นมา ก็ไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายจาก อภ.ได้ แบบนี้ยอมรับหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image