อนุทิน ถก กก.ผู้ช่วยรัฐมนตรี ขอสื่อสารปชช.เน้นวัคซีนโควิด-19 กัญชา-กัญชง

อนุทิน ถก กก.ผู้ช่วยรัฐมนตรี ขอสื่อสารปชช.เน้นวัคซีนโควิด-19 กัญชา-กัญชง

วันนี้ (25 มีนาคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. เรียกประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 2/2564 มี นพ.โสภณ เมฆธน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สธ. และ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นประธานการประชุม

นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล บูรณาการการทำงานของทุกกระทรวงให้เกิดประโยชน์กับประชาชน จึงขอให้ช่วยกันผลักดันและเป็นกระบอกเสียงสื่อสารถึงประชาชนสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมั่นใจศักยภาพระบบสาธารณสุข ความปลอดภัยของวัคซีนที่รัฐบาลจัดหา ซึ่งมีเพียงพอฉีดให้ประชาชนทุกคนในประเทศตามความสมัครใจภายในปีนี้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

Advertisement

“นอกจากนี้ นโยบายกัญชา-กัญชง รัฐบาลต้องการให้มีการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ประชาชนสามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพอย่างถูกกฎหมาย โดยให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ส่งเสริมการปลูก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ส่งเสริมด้านการค้า ให้การดำเนินการเป็นไปอย่างครบวงจร” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.โสภณ กล่าวว่า วันนี้ได้เสนอผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลด้านการพัฒนาสาธารณสุข เพื่อให้คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกกระทรวงรับทราบ และสนับสนุนการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และแผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19, ครอบครัวไทยสุขภาพดีมีหมอประจำตัว 3 คน รวมทั้งกัญชาเพื่อการรักษาและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

Advertisement

“ขณะนี้ได้ปลดล็อคกฎหมายกัญชา-กัญชง จากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 สามารถนำมาใช้ทางการแพทย์ เพิ่มทางเลือกในการรักษาให้กับประชาชน และผลักดันให้เกิดการปลูกกัญชา 6 ต้นต่อครัวเรือน ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด การรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อขอรับการปลูก และดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยนำช่อดอกที่ยังไม่ปลดออกจากการเป็นสารเสพติด ขายให้กับโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญาเพื่อนำมาสกัด แปรรูปใช้ทางการแพทย์ สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ใบ กิ่ง ก้าน ราก เนื้อเยื่อ นำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือขายให้กับภาคอุตสาหกรรม ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหาร เครื่องสำอาง ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพิ่มทางเลือกในการสร้างรายได้ในครัวเรือน ชุมชน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประเทศ” นพ.โสภณ กล่าวและว่า ได้ขอความร่วมมือการจัดการข่าวปลอมทางสื่อโซเชียลด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image