ผับติดโควิดแล้ว 71 ราย กระจาย 7จว. ศบค.จ่อสั่งปิดโซน-ทุกร้าน
เมื่อวันที่ 5 เมษายน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ในประเทศไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุม ศบค.วันนี้ มีการหารือกันประเด็นการติดเชื้อในเรือนจำ จ.นราธิวาส ซึ่งวันนี้มีตัวเลขจากกรมควบคุมโรค ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พบผู้ติดเชื้อ 112 ราย จาก 214 ตัวอย่าง แบ่งเป็นนักโทษ 88 ราย เจ้าหน้าที่ 23 รายโดยเป็นพยาบาล 1 ราย แต่ยังต้องมีการสอบสวนโรคต่อเนื่อง เพราะพบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและต่ำรวม 791 ราย ซึ่งรอการผลการตรวจยืนยันอยู่
“คลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาส ทีมสอบสวนโรค จากกรมควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นพยาบาล ซึ่งมีอาการตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม แต่มีประวัติเข้าไปดูแลนักโทษตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากนั้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ก็เข้าไปกู้ชีพนักโทษ เมื่อสอบสวนเพิ่มเติม พบว่านักในแดนดังกล่าวมีผู้แสดงอาการป่วยระบบทางเดินหายใจตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ดังนั้น เข้าใจว่าพยาบาลคนแรก น่าจะติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม และตรวจพบเชื้อในวันที่ 29 มีนาคม” พญ.อภิสมัย กล่าว
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า จากนั้นมีนักโทษจำนวนหนึ่งเข้าร่วมประชุมวิชาการใน จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ทางจังหวัดรายงานผู้ติดเชื้อวันนี้เพิ่ม 6 ราย ที่มีความเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตาม เรือนจำถือเป็นสถานกักกันที่กรมควบคุมโรค ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นราธิวาส เข้าไปทำงานอย่างรวดเร็ว ทำให้กรบควบคุมโรค มีความมั่นใจว่าสามารถจำกัดวงรอบการแพร่กระจายเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในสัปดาห์นี้ยังต้องติดผู้สัมผัสเสี่ยงใน จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นราธิวาส อย่างต่อเนื่อง
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนคลัสเตอร์สถานบันเทิงวันนี้ (5 เมษายน 2564) มีตัวเลขล่าสุด 71 ราย กระจายใน 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม ปทุมธานี เลย ชลบุรี เชียงใหม่ สมุทรสงคราม และ ชุมพร ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ ในร้านชมดาว พร่างพร้าว ณ ก้ำกึ่ง จ.ปทุมธานี ย่านรังสิต 5 ราย ร้าน Booze Up 6 ราย ร้าน Moon Bar อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อีก 8 ราย ร้าน Lounge Salaya จ.นครปฐม ย่านศาลายา 7 ราย และทั้งหมดมีการแพร่เชื้อสู่ครอบครัวของนักดนตรี นักร้องในร้าน อีก 5 ราย ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีการกระจายหลายจุดทั้งทองหล่อ จตุจักร เอกมัย รัชดา รวมทั้งสิ้น 40 ราย อย่างไรก็ตาม กระบวนการสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงยังดำเนินการต่อไปอยู่ จึงต้องติดตามต่อเนื่อง
“ย้อนกลับไปกรณีศึกษาปี 2563 ช่วงแรกพบการติดเชื้อในสถานบันเทิงย่านทองหล่อและสนามมวย โดยเชื้อกระจายไป 41 จังหวัด วันนี้ ศบค. หารือกันว่าจะทำอย่างไรเพื่อกำหนดมาตรการก่อนหน้าที่จะมีเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งวันพรุ่งนี้ (6 เมษายน 2564) อธิบดีกรมควบคุมโรค จะนำเสนอมาตรการไปยังที่ประชุม EOC จากการเรียนรู้การระบาดที่เกิดขึ้น ตามข้อกำหนดความในมาตรการ 9 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.)การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อการป้องกันควบคุมโรค โดยพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าตรวจ ดูแลการใช้สถานที่ การดำเนินการของผู้ประกอบ หากพบความเสี่ยงต่อโรค สามารถสั่งปิดได้เป็นการชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบมาตรการควบคุมโรค” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ข้อสรุปของ ศปก.ศบค. วันนี้ เสนอมาตรการ 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 หากพบสถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ รายงานผู้ติดเชื้อจะต้องปิดสถานที่นั้นทันที เพื่อควบคุมโรคสูงสุดอย่างน้อย 14 วัน ระดับที่ 2 หากพบสถานประกอบการ รายงานผู้ติดเชื้อบริเวณใกล้เคียงกันหลายแห่ง จะปิดบริการเป็นโซน อย่างไรก็ตาม หากเกิดสถานการณืควบคุมไม่ได้ จะดำเนินมาตรการ ระดับที่ 3 ก็จะสามารถสั่งปิดสถานบริการทั้งจังหวัดได้
“สิ่งที่อยากเน้นย้ำสถานประกอบการ เราเห็นใจท่าน เพราะหลายครั้ง เวลามีการปิด สถานบันเทิงก็จะถูกปิดก่อน และทุกท่านจะเห็นว่า ศบค. เข้าใจทุกท่านในการทำมาหากิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องบริหารความเสี่ยง ในการแพร่ระบาดโดยในครอบครัวและชุมชนของท่าน” พญ.อภิสมัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอความร่วมมือประชาชน สถานประกอบการที่จัดกิจกรรม ดำเนินการตามมาตรการ DMHTT คือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ตรวจเช็กอาการของตนเองและสแกนไทยชนะ เพื่อให้เรามีสงกรานต์ผ่านไปด้วยความสุข หากมีผู้ติดเชื้อก็สามารถดูแลได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย เพื่อให้เป็นสงกรานต์ที่มีความสุข
“ขอให้ประชาชนระมัดระวังตนเอง เราสามารถมั่นใจได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่สบายใจทั้งหมดทีเดียว ต้องใส่การเดินทาง ระหว่างการเดินทางที่มีความแออัดในระบบขนส่ง ต้องยกการ์ดสูงสุด การจัดกิจกรรม และนักท่องเที่ยว จะต้องระมัดระวังตนเอง เตือนกันเองในกลุ่มเพื่อนฝูง สถานประกอบการก็ต้องมีมาตรการดูแลคนในทุกฝ่าย” พญ.อภิสมัย กล่าว
