อนุทิน ชงไม้แข็งยกระดับสงกรานต์ เผยซิโนแวคไฟเขียวขายวัคซีนโควิดเพิ่ม 5 แสนโดส

อนุทิน ชงไม้แข็งยกระดับสงกรานต์ เผยซิโนแวคไฟเขียวขายวัคซีนโควิดเพิ่ม 5 แสนโดส

เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในสถานบันเทิงจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น การตรวจเชื้อในร้านคริสตัล คลับ ทองหล่อ25              (Crystal Club Thonglor 25) ตรวจ 10 ราย พบติดเชื้อ 8 ราย ซึ่งมีข้อมูลการติดเชื้อจากสถานบันเทิงสูงถึงร้อยละ 48 แสดงให้เห็นสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤต

“ฉะนั้น สธ.จะต้องมีมาตรการอะไรบางอย่างเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) อย่างแน่นอน โดยสิ่งที่เราจะทำต้องเข้มข้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนอยู่แล้ว เช่น อาจจะถึงขั้นเสนอให้ปิดสถานบันเทิง ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง อาจจะมากกว่านั้นเพราะหากปิดตรงนี้แต่ไม่ผิดตรงนั้นก็อาจจะเกิดการเคลื่อนย้ายของประชาชนไปอีกที่หนึ่งได้ซึ่งก็จะควบคุมได้ยาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเสนอไป เป็นมาตรการขั้นสูงสุดอยู่แล้ว แต่การพิจารณาจะต้องให้อำนาจกับผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกันอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ประชาชนช่วยกันอดทนอีกสักนิด แล้วทุกอย่างจะผ่านพ้นไป ปีหน้าเราจะได้สนุกกันอย่างเต็มที่” อนุทิน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า วันนี้มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน โดยวัคซีนจากซิโนแวค ประเทศจีน จำนวน 1 ล้านโดส จะเดินทางมาถึงไทยในวันที่ 10 เมษายนนี้ อย่างแน่นอน และขณะนี้มีการเจรจาเพื่อสั่งซื้อเพิ่มเติม ซึ่งทางผู้ผลิตยอมขายให้เราเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 แสนโดส ราคา 15 เหรียญสหรัฐฯต่อโดส ซึ่งอยู่ในระหว่างการชำระค่าวัคซีนขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) คาดว่าวัคซีนล็อตเพิ่มเติมนี้ จะเข้ามาประเทศไทยราวๆ วันที่ 19-20 เมษายนนี้ เพื่อดำเนินการกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรในระหว่างการรอวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า ที่จะทยอยออกมาในเดือนมิถุนายน ประมาณ 10 ล้านโดสต่อเดือน

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีการปรับการให้วัคซีนโดยจะนำลงไปฉีดให้กับ พนักงานที่ทำงานในสถานบันเทิงและครอบครัว ตรงนี้อยู่ในการพิจารณาของพื้นที่ ส่วนตัวตนยืนยันว่าการกระจายวัคซีนมีแผนดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่เกิดการระบาดที่ไหนแล้วเราจะเอาวัคซีนไปฉีดที่นั่น ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหา เกิดข้อสงสัยว่าถ้าอยากได้วัคซีนก็ทำให้มีการระบาดในพื้นที่

Advertisement

“ส่วนการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน ตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะหลังจากวัคซีนของแอสตร้าฯ ออกมา เราจะมีวัคซีนจำนวนมากที่จะฉีดให้กับประชาชน มีการใช้เทคโนโลยีแอพพลิเคชั่น และไลน์ทางการ หมอพร้อม รวมถึง เป๋าตัง ซึ่งมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อยู่แล้ว” อนุทิน กล่าวและว่า ประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็จะใช้บัตรประชาชน รวมถึงมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สำรวจและให้คำแนะนำด้านการบริการวัคซีนของประชาชนอยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image