หมอทวีศิลป์เผยโควิด-19 รอบ เม.ย. ปรากฏการณ์ใหม่ของ ปท. ติดเชื้อพุ่งครบ 77 จว.
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) แถลงรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่าในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,547 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,544 ราย แบ่งเป็น ระบบเฝ้าระวังและบริการ 1,316 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 228 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 3 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 40,585 ราย แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 37,353 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 19,980 ราย รักษาหายแล้ว 28,570 ราย เหลือรักษาอยู่ 11,916 ราย แบ่งเป็น อยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 11,335 ราย รพ.สนาม 581 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย สะสม 99 ราย โดยการระบาดระลอกใหม่เดือน เม.ย.2564 สะสม 11,722 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 98 ของประเทศไทย เป็นชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ ขณะป่วยอยู่ที่ จ.ตาก มีโรคประจำตัวคือ โรคอ้วน มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันรายก่อนหน้านี้ในคลัสเตอร์ทองหล่อ เมื่อวันที่ 3 เมษายน มีอาการไอ คันคอ ปวดเมื่อยตัว เมื่อวันที่ 4 เมษายน ผลยืนยันพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 เมษายน ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาอาการแย่ลงและเสียชีวิตในวันที่ 16 เมษายน
ผู้เสียชีวิตรายที่ 99 ชายไทย อายุ 51 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ขณะป่วยอยู่ที่ จ.ปทุมธานี โรคประจำตัวคือ โรคเบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า เมื่อวันที่ 10 เมษายน มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีเสมหะปนเลือด เมื่อวันที่ 12 เมษายน ผลยืนยันติดเชื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน มีภาวะหัวใจล้มเหลว ใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาอาการแย่ลงและเสียชีวิตในวันที่ 15 เมษายน
โฆษก ศบค.กล่าวว่า การวิเคราะห์เปรียบเทียบอัตราการป่วยและอัตราการเสียชีวิต พบว่า ระลอกเดือนมกราคม-ธันวาคม 2563 รวม 11 เดือนครึ่ง มีผู้ป่วย 4,237 ราย อัตราการรักษาหายร้อยละ 98.58 โดยมีผู้เสียชีวิต 60 ราย คิดเป็นอัตรา 1.42 ต่อมาระลอกเดือนธันวาคม 2563-วันที่ 31 มีนาคม 2564 รวม 3 เดือนครึ่ง มีผู้ป่วย 24,626 ราย อัตรารักษาหายร้อยละ 99.86 ผู้เสียชีวิต 34 ราย คิดเป็นอัตรา 0.14 และระลอกเดือนเมษายน 2564 รวม 13 วัน มีผู้ป่วย 5,712 ราย อยู่ระหว่างการรักษาและรักษาหายร้อยละ 99.95 ผู้เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.05
“นักวิชาการให้ความเห็นว่า ระลอกนี้ผู้ป่วยที่เดินไปเดินมาที่ยังแข็งแรงดี มีเยอะกว่าในระลอกแรก ขอให้ตระหนัก แต่อย่าตระหนก ซึ่งจะโยงไปถึงการเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ ซึ่งในตอนนี้มีหลายรูปแบบไม่ใช่แค่นอนใน รพ.ทั่วไป แต่ยังมี รพ.สนามรองรับผู้ป่วยอาการไม่มากหรือไม่มีอาการ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
โฆษก ศบค.กล่าวว่า กราฟแสดงตัวเลขผู้ติดเชื้อพบว่าภายใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อจากเดิม 31,658 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 40,585 ราย โดยมีผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการรักษาพยาบาลพุ่งขึ้นถึง 11,915 ราย ซึ่งเป็นนิวไฮ (New high) ของประเทศไทย
“เป็นปรากฏการณ์ที่เราต้องเรียนรู้ร่วมกัน ยอดนี้พุ่งสูงขึ้น ดังนั้น ทุกอย่างต้องมีรับรู้ ปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรมพร้อมๆ กัน และยังมีปรากฏการณ์ติดเชื้อ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่การระบาดระลอกแรก การกระจายมากขึ้นและจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม แต่ความรุนแรงไม่ได้มากกว่าเดิม หากจำแนกผู้ติดเชื้อรายใหม่รายจังหวัด พบว่า กรุงเทพมหานครเห็นภาพชัดที่สุด เมื่อวันที่ 15 เมษายน พุ่งสูงถึง 409 ราย และวันนี้ลดลงเหลือ 279 ราย ซึ่งการพบผู้ติดเชื้อวันละ 200-300 ราย ก็เป็นประเด็นปัญหาว่ากรุงเทพฯ ยังพบการติดเชื้อเยอะอยู่ ซึ่งมีผู้ป่วยสะสมถึง 2,976 ราย เราจึงได้ยินเสียงว่าเตียงไม่มี ก็เป็นการประสานการทำงานระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานต้นสังกัดทั้งมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฝ่ายทหารต้องมาร่วมด้วยช่วยกัน ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนก็ได้ร่วมกันทำงานเต็มพิกัดเพื่อดูแลสถานการณ์” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงสถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 830,052 ราย สะสม 140,511,425 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 3,012,007 ราย เป็นรายใหม่ 12,514 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มากกว่าระลอกก่อนหน้านี้
“เมื่อมาดูรายประเทศพบว่า อินเดียน่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 233,943 ราย สะสม 14,521,683 ราย ฝรั่งเศส 36,442 ราย สะสม 5,224,321 ราย ส่วนประเทศในเอเชีย พบว่า ฟิลิปปินส์ พบรายใหม่ 10,726 ราย ญี่ปุ่น 4,576 ราย กัมพูชา 262 ราย จึงต้องเรียนว่าสถานการณ์รอบบ้านเราน่าเป็นห่วงอยู่” โฆษก ศบค.กล่าว
