กทม.ติดโควิดคลัสเตอร์ผับบาร์กว่า 1.5 พันคน อยุธยาแพร่ในตลาดซ้ำเร่งสอบสวนโรค
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) เปิดเผยระหว่างแถลงรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เสนอภาพสาเหตุการเกิดระบาดรอบใหม่จากสถานบันเทิง โดยมีข้อสรุปว่า การระบาดระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 มีการสอบสวนโรคและยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อมีประวัติเชื่อมโยงสถานบันเทิง กระจายไป 71 จังหวัด ซึ่งมี 6 จังหวัดที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงโดยตรง คือ ชัยนาท ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และ ระนอง เป็นจุดสำเร็จของจังหวัดต่างๆ อาจโยงไปว่า จังหวัดไม่มีสถานบันเทิง หรืออาจไม่เป็นที่นิยม หรือเกี่ยวโยงกับการดูแลที่ดี ซึ่งให้แต่ละจังหวัดไปประเมินตนเอง
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการระบาดเดือนเมษายน 2564 ในกรุงเทพมหานคร พบผู้ติดเชื้อสะสม 3,984 ราย โดยจำนวนนี้มี 1,583 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 ของการติดเชื้อทั้งหมดเชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิง ส่วนในจังหวัดอื่นๆ พบการติดเชื้อสะสม 12,213 รายในจำนวนนี้มี 3,104 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง งานฟุตบอล งานเลี้ยงสังสรรค์
“ทั้งนี้ ข้อมูลการสอบสวนโรคทำได้ยาก เนื่องจากผู้ติดเชื้อที่ให้ข้อมูลมีเพียง 4,583 ราย คิดเป็นร้อยละ 73 แบ่งเป็น นักเที่ยว 1,157 ราย นักดนตรี/นักร้อง 66 ราย ผู้สัมผัส 348 ราย พนักงาน 364 ราย และไม่ระบุ 84 ราย ส่วนที่ยังไม่ให้ข้อมูลอีก 1,677 ราย คิดเป็นร้อยละ 27 ขณะเดียวกัน ผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สถานบันเทิง จำนวน 6,020 ราย จำแนกตามอายุ พบว่า ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี ตามด้วย 30-39 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน อย่างไรก็ตาม เป็นผู้มีอาการ 2,369 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.56 และ ผู้ไม่มีอาการ 1,609 ราย คิดเป็นร้อยละ 40.44” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณีการพบผู้ติดเชื้อในตลาดที่ห่างหายไปสักพัก แต่ขณะนี้ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ กรมควบคุมโรค ได้รับแจ้งจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรี ซึ่งเป็นต้นทาง พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นญาติของพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในตลาดกลางกุ้ง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน เดินทางเข้าพื้นที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ ทำให้ญาติ และพนักงานร้านติดเชื้อ รวม 17 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่าการสอบสวนโรคเพิ่มเติมที่ ตลาดกลางเพื่อเกษตรกร จ.พระนครศรีอยุธยา มีร้านค้าประมาณ 50 ร้าน ข้อมูลเมื่อวันที่ 18 เมษายน ตรวจหาเชื้อ 742 ราย พบผู้ติดเชื้อ 6 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.81 และเมื่อวันที่ 19 เมษายน ตรวจไป 594 ราย ที่ยังรอผลการตรวจอยู่
“ความเสี่ยงคือ เจ้าของร้าน ครอบครัว ผู้รับประทานอาหารร่วมกัน นอนห้องเดียวกัน ซึ่งต้องแยกคนเหล่านี้ออกมาตรวจหาเชื้อ โดยพบว่า พื้นที่จุดสัมผัสร่วม เช่น เครื่องครัว โต๊ะ ประตู ฯลฯ ก็ล้วนเป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น ดังนั้น คนสำคัญในตอนนี้ คือ ผู้ประกอบการ กรมอนามัยได้นำเสนอข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID-19 เป็นการประเมินตนเองของผู้ประกอบการ โดยวันนี้เห็นผลระดับหนึ่งแต่ต้องทำต่อไป ซึ่งจะนำมาเสนอในครั้งต่อไป” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษก ศบค. กล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศไทย อยู่อันดับที่ 107 ของโลก พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,443 ราย สะสม 45,185 ราย เสียชีวิตสะสม 108 ราย ทั้งนี้ กราฟแสดงจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยยังพุ่งขึ้น ถึงแม้เมื่อวานนี้ (19 เมษายน 2564) รายใหม่จะลดลงเหลือ 1,328 ราย แต่วันนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,443 ราย กราฟยังขึ้นๆลงๆ เราต้องมองว่าทิศทางยังขึ้นอยู่ และยังต้องการความร่วมมือจากประชาชนอย่างมาก โดยเรายังทำการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกอยู่แต่อัตราพบน้อยลง จึงต้องขอความร่วมมือให้ทุกท่านเข้ามาตรวจกันให้มากขึ้น ขณะที่ใน 6 จังหวัดแรก ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ 3,965 ราย เชียงใหม่ 2,366 ราย ชลบุรี 1,362 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 813 ราย สมุทรปราการ 748 ราย และ นนทบุรี 724 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แผนที่ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ข้อมูลวันที่ 20 เมษายน มี 68 จังหวัด ซึ่งลดลงจากเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่พบสูงถึง 70 จังหวัด ทำให้เห็นพื้นที่บางแห่งเป็นสีขาว คือ จังหวัดที่ไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นสีเขียว ที่มีผู้ติดเชื้อ 1-10 ราย และสีเหลือง ผู้ติดเชื้อ 11-50 ราย ซึ่งยังมีจำนวนมากอยู่ ส่วนสีแดง ผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 ราย จะอยู่ในภาคเหนือ และกรุงเทพฯ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ว่า พบรายใหม่เฉลี่ยวันละ 6-8 แสนราย สะสมที่ 142,696,001 ราย ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 มีรายใหม่ 51,650 ราย สะสม 32,475,043 ราย ส่วนอินเดีย รายใหม่ 256,947 ราย สะสม 15,314,714 ราย ส่วนทวีปเอเซีย เช่น ฟิลิปปินส์ รายใหม่ 9,628 ราย ซึ่งต่ำกว่าหมื่นเล็กน้อย มาเลเซีย 2,078 ราย เมียนมา 16 ราย และกัมพูชา 624 ราย เป็นสถานการณ์ที่เราควรรับทราบ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า เหตุการณ์ที่น่าสนใจในต่างประเทศ คือ ประเทศบราซิล พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันเดียวสูงถึง 1,657 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสม 373,335 ราย เป็นที่รับทราบกันว่า ไม่มีการล็อกดาวน์ ไม่มีมาตรการตอนต้น เกิดเป็นการระบาดขึ้นมาเป็นระลอกที่ 2 ซึ่งส่งผลให้ระบบการรักษาพยาบาลส่วนใหญ่ล่มสลาย ขณะที่ ประเทศญี่ปุ่น ในเมืองโอซาก้า ผู้ว่าการจังหวัดโอซาก้า เตรียมขอให้รัฐบาลกลางประกาศภาวะฉุกเฉินอีกรอบหนึ่ง เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ส่วน ประเทศอินเดีย โดยมุขมนตรีกรุงนิวเดลีประกาศล็อกดาวน์เมืองประมาณ 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 19-26 เมษายน 2564 เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่
