สธ.เผยผู้ป่วยโควิดใน รพ.เครียดฆ่าตัวตาย 1 ราย แนะตั้งสติ เตรียมรับมือ

สธ.เผยผู้ป่วยโควิดใน รพ.เครียดฆ่าตัวตาย 1 ราย แนะตั้งสติ เตรียมรับมือ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงรายงานสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ว่า วันนี้ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,458 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ทั้งนี้ การระบาดระลอกนี้จะพบว่ามีรายงานการเสียชีวิตในคนอายุน้อย มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับลักษณะของการระบาดโรคโควิด-19 ในระลอกที่เกิดในวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน ที่เชื่อมโยงการเที่ยวสถานบันเทิง และแพร่ต่อในที่ทำงาน และครอบครัว

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า มีคลัสเตอร์ล่าเกิดการติดเชื้อโรงงานแห่งหนึ่ง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นประธานบริษัท ซึ่งได้ไปงานมอเตอร์โชว์เมื่อต้นเดือนเมษายน จากนั้นวันที่ 9 เมษายน เริ่มมีอาการป่วย และมีกิจกรรมรดน้ำสงกรานต์ภายในโรงงานด้วย ทำให้มีผู้สัมผัสและมีการติดเชื้อ 11 ราย จากผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 72 ราย พนักงานขับรถบริษัท 1 ราย และมีผู้ติดเชื้อในครอบครัวอีก 4 ราย ซึ่งรวมแล้ว 17 ราย

“กรณีนี้เป็นการสัมผัสเชื้อในที่ทำงาน จึงเป็นที่มาว่า ในสถานประกอบการไม่ควรมีกิจกรรมที่รวมตัวกัน หากเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง รวมถึงการรับประทานอาหารก็ควรแยกการรับประทาน ไม่ควรมีการสังสรรค์ร่วมกันผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 นอกจากมีความเจ็บปวดทางร่างกายแล้ว ก็ยังมีผลกระทบทางจิตใจ มีความกดดันทางจิตใจด้วย ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ฆ่าตัวตาย 1 ราย หากได้ข้อสรุปที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการรายงานต่อประชาชนต่อไป” นพ.เฉวตสรร กล่าว

Advertisement

ด้าน ผศ.พิเศษ นพ.ปราการ ถมยางกูร ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนมีความกังวล เพราะกลัวว่าตัวเองจะติดโรคหรือไม่ คนใกล้ตัวจะติดโรคหรือไม่ ซึ่งเมื่อกังวลมากๆ ก็จะกลายเป็นความเครียด และทำให้เกิดความโกรธแค้นต่อสิ่งต่างๆ โกรธคนแพร่เชื้อ โกรธระบบบริการ โกรธในเรื่องต่างๆ รวมไปถึงการโกรธและการรังเกียจเรื่องเชื้อชาติ เหมือนที่ปรากฏเป็นข่าวคนเอเชียทุกทำร้ายร่างกายในหลายๆ ประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางคนกลัว เครียดจนไม่กล้าออกไปข้างนอก ไม่ทำอะไรเลยก็มี

นพ.ปราการ กล่าวว่า วิธีสังเกตว่ามีความเครียดเกินไป ได้จากหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหงื่อออกง่าย ปวดหัว ความคิด จิตใจไม่แจ่มใส ดังนั้น วิธีที่จะช่วยให้คลายเครียดคือการไม่เสพข่าวสารมากเกินไป ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ร่วมกับการป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดจากโรค คือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อย ซึ่งเมื่อเราป้องกันตัวเองดีจะทำให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ก็จะไม่เครียดเกินไป หรือถ้าไม่รู้จะพูดหรือคุยกับใครสามารถปรึกษาสายด่วน 1323 ได้

“ถ้าเราเกิดติดเชื้อ หรือคนใกล้ชิดเราติดเชื้อ อันดับแรกคือต้องตั้งสติ โรคนี้สามารถรักษาให้หายได้ เพราะฉะนั้นต้องมีสติ จากนั้นก็ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของ สธ.อย่างเป็นไปตามขั้นตอนซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับโรค และวิธีปฏิบัติตัว รวมถึงหน่วยงานที่เราสามารถติดต่อได้นั้น เราสามารถเตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ เมื่อเกิดการติดเชื้อหรือคนใกล้ชิดเราติดเชื้อจะได้ไม่ตื่นตระหนก หรือเครียดเกินไป” นพ.ปราการ กล่าวและว่า โรคไวรัสนอกจากทำลายสุขภาพกายแล้วยังมีผลต่อสุขภาพใจด้วย ดังนั้น จึงอยากรณรงค์ให้ทุกคนรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ยิ้มให้กันเข้าไว้ ยิ้มสู้กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนี้แล้วผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image