กทม.ถกแก้ปมรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเร่งด่วน เร่งเปิดฮอสปิเทลเพิ่ม

กทม.ถกแก้ปมรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะเร่งด่วน เร่งเปิดฮอสปิเทลเพิ่ม

วันนี้ (22 เมษายน 2564) ที่ศาลาว่าการ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมระบบทางไกล คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัด กทม. เพื่อติดตามการเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ร่วมประชุมเพื่อติดตามการดำเนินการงานของหน่วยงานของ กทม.ด้วย

ในที่ประชุม พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. รายงานภายหลังลงพื้นที่ติดตามการทำงานของศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม.ว่า ปัจจุบันศูนย์เอราวัณ ซึ่งเป็นเครือข่ายการรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยโควิด-19 หลักของ กทม.ให้บริการผ่านสายด่วน 1669  มีเจ้าหน้าที่ประจำ 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 3 ผลัด อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา พบว่ามีประชาชนโทร.เข้าไปใช้บริการประมาณ 3,500 สายต่อวัน ซึ่งมีทั้งสายจากผู้ป่วยฉุกเฉินและสายจากผู้ป่วยโควิด-19 และเมื่อประชาชนโทรเข้ามาระบบจะจัดคิวเพื่อรอรับบริการ หากประชาชนวางสายและโทรเข้ามาใหม่จะทำให้ต้องเข้าคิวใหม่ จึงทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าไม่มีผู้รับสาย

Advertisement

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักการแพทย์เร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งผู้ป่วยเร่งด่วน ประกอบด้วย การเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่โดยเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่ผลัดกลางคืนมาปฏิบัติงานในช่วงผลัดกลางวัน เวลา 08.00-16.00 น. ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากก่อน รวมทั้งให้จัดระบบการรับสายใหม่ โดยให้รับสายพร้อมให้ประชาชนแจ้งเฉพาะชื่อและเบอร์ติดต่อกลับ จากนั้นให้จัดชุดเจ้าหน้าที่เพิ่มเป็นการเฉพาะกิจเพื่อประสานงานติดต่อกลับเพื่อให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว และลดระยะเวลาการรอคอยของประชาชน รวมทั้งปรับปรุงระบบให้มีเสียงตอบรับอัตโนมัติขณะประชาชนรอสายและเพิ่มคู่สายเพิ่มเติมเพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“ในส่วนของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ซึ่ง 50 สำนักงานเขต ได้บูรณาการความร่วมมือในการรับส่งผู้ป่วยเข้าสู่สถานพยาบาล เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยซึ่งยังคงติดค้างอยู่ที่บ้าน ให้เพิ่มจำนวนรถและจำนวนรอบในการรับส่งผู้ป่วย ทั้งนี้โรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เมษายนนี้ คาดว่าจะสามารถรองรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากได้เพิ่มมากขึ้น” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

Advertisement

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับการจัดหาฮอสปิเทล (Hospitel) ให้ 50 สำนักงานเขต เร่งประสานพร้อมแจ้งรายชื่อโรงแรมที่เหมาะสม เพื่อให้สำนักการแพทย์เข้าไปตรวจสอบความพร้อมในการเป็นฮอสปิเทล ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด อาทิ ต้องไม่ใช้ระบบแอร์รวม ไม่มีพรม เป็นต้น โดยให้ประสานโรงแรมที่เป็น SQ หรือ ASQ ก่อน เนื่องจากมีความพร้อมและผ่านการประเมินแล้ว รวมทั้งให้สำนักงานเขตสืบค้นผู้ติดเชื้อที่อยู่ในพื้นที่และรายงานให้สำนักการแพทย์ทราบเป็นรายวัน เพื่อบริหารจัดการในการดูแลต่อไป นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อเข้าใช้ระบบ BKK covid-19 ของกทม.เพื่อประเมินความเสี่ยง และติดต่อเจ้าหน้าที่เป็นการเร่งด่วนหากมีประวัติเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยง ซึ่งจะได้รับการติดต่อและประสานงานจากเจ้าหน้าที่ได้อีกช่องทางหนึ่ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image