ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 1 หมื่น แม่ค้าหลอกขายเนื้อกวางป่า ที่แท้เป็นเนื้อหมูป่า

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 1 หมื่น แม่ค้าหลอกขายเนื้อกวางป่า ที่แท้เป็นเนื้อหมูป่า

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ทำการล่อซื้อเนื้อกวางป่า สัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 14 จากนางอารยา บุญมี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ที่ 7 ต.ท่าขาม อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่เปิดร้านค้าด้วยการโฆษณาหน้าร้านว่าขายเนื้อกวางป่าและสัตว์ป่า ที่ตั้งอยู่ที่ถนนสาย 323 ไทรโยค-กาญจนบุรี หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยในวันนั้นเจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อเนื้อ จำนวน 1 กิโลกรัม เป็นเงินจำนวน 300 บาท

และในวันดังกล่าว นางอารยาได้ปฏิเสธพร้อมกับให้การว่าเนื้อกวางป่าที่เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อ และตรวจยึดไปนั้น เป็นกวางป่าเลี้ยงที่มีผู้ขายส่ง นำมาส่งให้ที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอให้นางอารยา แสดงหลักฐานการได้รับอนุญาตให้ค้ากวางป่าเลี้ยง แต่นางอารยาไม่มีหลักฐานใดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้

เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนางอารยาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 29 ในข้อหาค้าเนื้อกวางป่า สัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 14 โดยมิได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Advertisement

และเจ้าหน้าที่ สบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้ส่งชิ้นเนื้อของกลางไปพิสูจน์ที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเนื้อชนิดดังกล่าวนั้นเป็นเนื้อของสัตว์ป่าชนิดใด

 

Advertisement

ต่อมาศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ ได้แจ้งผลพิสูจน์ออกมาปรากฏว่า ชิ้นเนื้อนั้นไม่ใช่กวางป่าตามที่นางอารยาโฆษณาเอาไว้ แต่ข้อเท็จจริงคือเป็นเนื้อหมูป่า เจ้าหน้าที่จึงมอบเอกสารหลักฐานการพิสูจน์ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อใช้ประกอบเป็นหลักฐานในสำนวนของคดีในการส่งฟ้อง
โดยคดีนี้ประชาชนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นคดีเล็กๆ ที่ไม่ใหญ่โต แต่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ให้ความสำคัญกับคดีเหล่านี้เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นคดีที่มีการหลอกลวงประชาชนผู้บริโภค

ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย.64 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่านางอารยา บุญมี (จำเลย) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 ให้ลงโทษฐานขายของโดยหลอกลวง ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 พิพากษาให้จำคุก 2 เดือน และปรับเป็นเงิน จำนวน 10,000 บาท

แต่จำเลยให้การยอมรับสารภาพจึงเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เป็นจำคุก 1 เดือน ปรับ 5,000 บาท และจากประวัติไม่เคยทำผิดมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาเอาไว้เป็นเวลา 2 ปี
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกของจังหวัดกาญจนบุรี และถือว่าเป็นคดีที่พ่อค้าแม่ค้าสามารถนำไปเป็นอุทาหรณ์ให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image