อย.ย้ำปลูกกัญชาตาม กม. ไม่อุ้มนายทุน ปชช.เข้าถึงจริง แต่ต้องขออนุญาต

อย.ย้ำปลูกกัญชาตาม กม. ไม่อุ้มนายทุน ปชช.เข้าถึงจริง แต่ต้องขออนุญาต

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า การปลดล็อกกัญชาเพื่อสามารถใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัย รวมทั้งการนำส่วนที่ไม่เป็นยาเสพติดไปใช้ประโยชน์ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ขณะนี้มีกระแสตอบรับอย่างดี และผู้ประกอบการให้ความสนใจปลูก แปรรูปในผลิตภัณฑ์ต่างๆ

“อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่าวันนี้ประชาชนสามารถปลูกได้หรือไม่ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า การปลูก สกัด และผลิต ทั้งหมดยังต้องขออนุญาตจาก อย.ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ระบุผู้มีคุณสมบัติขออนุญาต คือหน่วยงานรัฐ สถาบันอุดมศึกษา เกษตรกรที่รวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร หรือผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน เป็นต้น โดยวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร จะต้องร่วมกับหน่วยงานรัฐตามเงื่อนไข” รองเลขาธิการ อย.กล่าว

นพ.วิทิตกล่าวว่า ในส่วนของการอนุญาตนั้น ไม่ได้ผูกขาดให้กลุ่มทุนใดเป็นการเฉพาะ และไม่ได้สงวนเฉพาะสำหรับภาครัฐ แต่ทั้งภาคการเกษตรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือภาคการศึกษาสามารถปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชาได้ รวมทั้งเงื่อนไขการปลูกก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องปลูกแต่เฉพาะในโรงเรือนระบบปิดเท่านั้น ผู้ปลูกสามารถปลูกกลางแจ้งได้ แต่ต้องมีระบบการควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อให้กัญชามีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และป้องกันการหลุดออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยการยื่นขออนุญาตปลูกกัญชาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดให้ยื่นที่ อย.

นพ.วิทิตกล่าวว่า หากผู้ที่ได้รับอนุญาตปลูกกัญชาต้องการนำใบหรือส่วนต่างๆ ที่ไม่เป็นยาเสพติดไปใช้ประโยชน์หรือจำหน่ายก็สามารถทำได้ ด้วยการยื่นขอแก้ไขแผนการนำไปใช้ประโยชน์ที่ อย. ย้ำ ประชาชนทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนของกัญชาที่ไม่เป็นยาเสพติดได้ แต่ต้องได้มาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image