รพ.เอกชน วอน ปชช. อย่ารอวัคซีนโควิดทางเลือก เผยโมเดอร์นายังไม่มีของส่งให้

รพ.เอกชน วอน ปชช. อย่ารอวัคซีนโควิดทางเลือก เผยโมเดอร์นายังไม่มีของส่งให้

วันที่ 14 พฤษภาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของโมเดอร์นา ซึ่งเป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือกของภาคเอกชน ว่า วัคซีนโมเดอร์นา มีตัวแทนในประเทศไทยอยู่แล้วคือ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด

“เท่าที่ทราบคือ บริษัทเหล่านี้สามารถนำเข้ามาได้เองได้ หากเขาสามารถดีลกับโรงพยาบาล (รพ.) เอกชน โดยตรงในการสั่งซื้อก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไม่ต้องมีประเด็นว่าจะต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ฉะนั้น รพ.เอกชน ก็สามารถติดต่อไปได้ เขาอาจจะมีเงื่อนไขเรื่องการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Use Authorization: EUA) ก็ว่ากันไป ถ้าเขาซื้อผ่านโดยตรงไม่ได้ แล้วยังอยากจะได้อยู่ ก็มาคุยกับ อภ. และรับเงื่อนไข อภ. คือ วางเงินก่อนไปซื้อ เพราะ อภ.จะไปเสี่ยงสต็อกไว้ก่อนไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีใครยื่นตัวเลขจำนวนมาที่ อภ.เพื่อทำการสั่งซื้อแทน เพราะเพิ่งจะขึ้นทะเบียนไปเพียงวันเดียว” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีประชาชนจำนวนหนึ่งเลือกที่จะรอรับวัคซีนทางเลือกเหล่านี้ ทำให้ไม่ยอมมาลงทะเบียนรับวัคซีนที่ภาครัฐจัดหาให้ฟรี นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี รัฐบาลยืนยันว่าวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลสูง ในการป้องกันอันตรายจากโควิด-19 ได้ เช่นเดียวกับวัคซีนของซิโนแวค และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้าน นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช รองนายกสมาคม รพ.เอกชน กล่าวถึงการซื้อวัคซีนของโมเดอร์นาว่า รพ.เอกชน สามารถดีลตรงกับบริษัทผู้นำเข้า คือ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ได้เลย แต่เท่าที่ทราบจนถึงขณะนี้บริษัทยังไม่มีวัคซีนส่งให้

Advertisement

ขณะที่ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ประธาน รพ.รามคำแหง กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.หลายแห่งอยู่ระหว่างการสำรวจ และรวบรวมจำนวนวัคซีนเพื่อส่งตัวเลขให้กับ อภ.เป็นผู้สั่งซื้อให้ ซึ่งมีทั้งที่ต้องการหลักหมื่นโดส ไปจนถึงหลักล้านโดส เบื้องต้นจะมีวัคซีนให้ประมาณเดือนตุลาคมนี้

“ดังนั้นในช่วงนี้จึงอยากบอกกับประชาชนว่าอย่ารอ วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้นั้น ถือเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี หากได้รับสิทธิแล้วก็ขอให้ไปฉีด เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ประเทศจะได้ปลอดภัย แน่นอนว่าก็อาจจะส่งให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนของเอกชนน้อยลง แต่ในภาวะนี้ เราไม่อาจจะเห็นแก่ตัวได้ อีกทั้งตอนนี้ก็มีการศึกษาแล้วว่าการรับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว เข็มที่ 3 จะฉีดของยี่ห้ออะไรก็ได้ เหมือนกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องมีการฉีดกระตุ้นทุกๆ ปี” นพ.เอื้อชาติ กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image