ศบค.จับตา 34 คลัสเตอร์ในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดพบตั้งวงสูบบารากู่-เล่นพนัน

ศบค.จับตา 34 คลัสเตอร์ในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดพบตั้งวงสูบบารากู่-เล่นพนัน

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า วันนี้ผู้ติดเชื้อจากเรือนจำเพิ่มขึ้น 1,498 ราย และนอกเรือนจำ 1,879 ราย ยังเป็นตัวเลขทรงๆ และหลักๆ ยังอยู่ กรุงเทพมหานคร 876 ราย ปริมณฑล 481 ราย โดยทิศทางทั้งประเทศ พบว่า พื้นที่สีขาว จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มี 14 จังหวัด พื้นที่สีเขียว พบผู้ป่วยรายใหม่ 1-10 ราย มี 42 จังหวัด ที่เรายังต้องเฝ้าระวังคือ พื้นที่สีแดง ที่พบผู้ป่วยมากกว่า 100 ราย มี 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี และ ปทุมธานี

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า คลัสเตอร์ที่เป็นความเสี่ยง ยังอยู่ในชุมชนแออัด กรุงเทพฯ ส่วน จ.นนทบุรี และจ.ปทุมธานี เป็นคลัสเตอร์ตลาด จ.สมุทรปราการ เป็นคลัสเตอร์โรงงาน จ.ขอนแก่น และ จ.เพชรบูรณ์ เป็นการติดเชื้อจากผู้ป่วยที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ขณะเดียวกัน จ.ระนอง เป็นการคัดกรองเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว

“พบว่าบางจังหวัดมีการร้องเรียน จับกุม ผู้รวมกลุ่มสูบบารากู่ เล่นพนัน ซึ่งผับบาร์ คาราโอเกะ ปิดหมด แต่พบว่ามีการรวมกลุ่มตามบ้าน ที่ประชุม ศบค. ก็ขอฝากประชาชน และฝากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ตรวจตราการกระทำความผิดอย่างเข้มงวด” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า การติดเชื้อในเรือนจำ เช่น จำพิเศษกรุงเทพฯ ตรวจแล้ว 3,021 ราย พบการติดเชื้อ 2,908 ราย คิดเป็น ร้อยละ 61 เรือนจำกลางคลองเปรม ตรวจ 8,087 ราย ติดเชื้อ 1,583 ราย คิดเป็น ร้อยละ 15 เรือนจำบางขวาง ตรวจ 5,607 ราย ติดเชื้อ 598 ราย คิดเป็น ร้อยละ 6 นอกจากนี้ ข้อมูลกรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ตรวจหาเชื้อที่เรือนจำพิเศษธนบุรี หญิงกลาง นนทบุรี ฉะเชิงเทรา เรือนจํากลางเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งแต่ละที่พบการติดเชื้อต่างกัน บางที่เจอ ร้อยละ 6 หรือ ร้อยละ 15 และสูงสุด ร้อยละ 71 อย่างไรก็ตาม การดูแลผู้ติดเชื้อในเรือนจำ มีระบบปิด จะไม่มีโอกาสแพร่เชื้อมาด้านนอก ดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุข เหมือนกับคนที่อยู่ข้างนอก มีการระดมทีมแพทย์และทรัพยากร เช่น เครื่องช่วยหายใจ เข้าไปช่วยเหลือกรมราชทัณฑ์ ดูแลเบ็ดเสร็จในเรือนจำ

Advertisement

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพฯ พบผู้ป่วยรายใหม่ 876 ราย มีการเฝ้าระวังใน 34 คลัสเตอร์ เป็นคลัสเตอร์เก่า 29 คลัสเตอร์ และคลัสเตอร์ใหม่ 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ ตลาดบางกะปิ, แคมป์ก่อสร้างบางคอแหลม, โรงงานน้ำแข็งจตุจักร, แคมป์คนงาน ดอนเมือง, โกดังสินค้าให้เช่า บางซื่อ เป็นต้น หากดูทั้งหมด 50 เขต จะมีพื้นที่ไข่แดง และมีความเป็นห่วงในแคมป์คนงาน พบว่า บางเขตมีมากกว่า 20 แคมป์ เช่น บางกะปิ บางเขน ลาดพร้าว ห้วยขวาง และบางแขมมีคนงานเกินพันคน เช่น บางคอแหลม มี 7 แคมป์ และมีคนงานสูงสุด 1,374 คนใน 1 แคมป์

“ศบค.ชุดเล็ก คุยกันว่าจะมีมาตรการดูแลการติดเชื้อในแคมป์คนงานอย่างไร อันดับแรก คือ การสุ่มตรวจหาแคมป์ที่ไม่มีคนติดเชื้อ เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ด้วยการเข้มงวดมาตรการ เนื่องจากกรมควบคุมโรค พบว่าบางแคมป์ มีการดื่มน้ำกระติกและแก้วเดียวกัน โดยต้องซีลพื้นที่ไข่แดง งดการเคลื่อนย้าย ไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปยังแคมป์อื่น” พญ.อภิสมัย กล่าวและว่า สำหรับแคมป์ ที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว จะต้องซีลไม่ให้มีการออกนอกพื้นที่ และใช้มาตรการบับเบิ้ล แอนด์ ซีล (Bubble and seal) โดยบริษัทฯ จัดรถรับส่งแรงงาน จากที่พักและที่ทำงาน ไม่ให้มีการแวะพัก แต่จำเป็นต้องขออนุญาตไปยังสำนักงานเขต เพื่อเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้ สำนักงานเขตสามารถมีอำนาจสั่งปิดแคมป์หรือไซต์ก่อสร้างได้

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ขอให้ประชาชนละแวกนั้นเป็นหูเป็นตาสอดส่อง อย่างเช่นที่มีการร้องเรียนมาว่า พบแรงงานรวมกลุ่มดื่มสุรา ซึ่งทาง ศบค.ต้องขอขอบคุณ ที่ท่านเป็นห่วงพื้นที่ เพราะหากมีการระบาด ทุกคนในชุมชนก็ถือมีความเสี่ยง ดังนั้น เราต้องช่วยกัน

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image