ครอบครัวเด็ก 3 ขวบ ลั่น รพ.ต้องรับผิดชอบ ชี้วางยาสลบ แต่ไม่บอกแม่ สุดท้ายดับ เผยไร้คำขอโทษ

ครอบครัวช็อก ลูก 3 ขวบถูกวางยาสลบ สุดท้ายเสียชีวิต ญาติคาใจคำตอบของ รพ.

กรณี “น้องเจล” อายุ 3 ขวบ มีปัญหาเรื่องหัวใจ เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล (รพ.) แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าจำเป็นต้องให้น้ำเกลือ และกลัวเด็กดิ้นเลยวางยานอนหลับ หลังจากนั้นเด็กเสียชีวิต แม่และคุณยายคาใจกับคำตอบของ รพ.

รายการโหนกระแสวันที่ 20 พ.ค. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “เบล” แม่น้องเจล มาพร้อม “คุณยายเชอร์รี่” และ “ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล” รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ

แม่มีลูกคนเดียว เจลตอนอยู่ในครรภ์ ปกติมั้ย?
แม่ : ปกติค่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องหัวใจ หลังคลอดออกมา รพ.บอกว่าเป็นโรคหัวใจ ส่งไปอีก รพ.นึงค่ะ

Advertisement

รพ.แรกบอกน้องเป็นโรคหัวใจอะไร?
แม่ : หัวใจรั่วชนิดรุนแรงค่ะ ก็ส่งไปรักษาที่ รพ.ที่สอง ตั้งแต่ขวบนึงเลย ถ้าป่วยไข้ไม่สบายก็ไป รพ.ที่ใกล้บ้านก่อน น้องวิ่งเล่นได้ปกติ พอประมาณ 3 ขวบ หมอบอกว่าต้องผ่าแล้ว หนูเป็นเด็ก หมอพูดอะไรก็ต้องยอมรับเพื่อให้ลูกหนูหาย

เขาให้ผ่าเพื่อ?
แม่ : เพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจค่ะ ผ่าวันที่ 11 มี.ค.ค่ะ หลังผ่าน้องเหนื่อยง่าย เดินสามสี่ก้าวก็เหนื่อยแล้วค่ะ น้องไม่เหมือนเดิมเลย ไปโรงเรียนไม่ได้ วิ่งเล่นก็ไม่ได้ นอนดูโทรศัพท์ทั้งวันค่ะ หลังผ่าน้องไม่ปกติอีกเลย

ยาย : น้องต้องนอนกินค่ะ

Advertisement

แม่ : ลุกขึ้นไม่ไหวค่ะ

ทนาย : รักษา รพ.นานมั้ยก่อนกลับไปที่บ้านหลังผ่าตัดแล้ว

แม่ : น้องผ่าตัดเสร็จก็เข้าไอซียู ประมาณอาทิตย์นึง

หมอให้ผ่าตอน 3 ขวบ โตกว่านั้นไม่ได้เพราะอะไร?
แม่ : เขาบอกว่าหัวใจน้องทำงานหนักแล้ว ถ้าทิ้งไว้ตอนโตจะไม่หายนะ คือต้องผ่า

ล่าสุดที่เป็นประเด็นขึ้นมา?
แม่ : น้องบ่นเหนื่อย หนูเลยโทรถามหมอที่เป็นคนผ่าตัดน้อง เขาบอกให้ไปรักษา หนูบอกหนูกลัวโควิด เพราะน้องเพิ่งผ่าตัดมา ไม่อยากให้ติดเชื้ออะไรอีก เขาเลยนัดหนูไปวันที่ 11 พ.ค. วันที่ไปน้องยังปกติ แต่พอเข้าไปน้องแย่ ไม่กินอะไรเลย กินแต่น้ำเหมือนจะหมดแรง ตอนเที่ยงวันที่ 13 เขาเจาะเลือดน้องไป 4-5 ขวด แล้วน้องแย่ เขาไม่พักกับการเจาะเลย เดี๋ยวเจาะๆ น้องร้องไม่ไหวแล้ว

อ่านข่าว : ญาติคาใจ รพ.รัฐใน กทม.ทำหลาน 3 ขวบดับ หลังเข้ารักษา บอกติดเชื้อไวรัส แต่ไม่บอกว่าเชื้ออะไร

ตอนร้องน้องดิ้นมั้ย?
แม่ : ดิ้นค่ะ เขาให้หนูจับ แล้วต่อมาช่วงหัวค่ำให้น้องกินยาอะไรไม่รู้สีม่วงๆ เขาเอาเครื่องแอคโคมาตรวจบอกน้องความดันต่ำวิกฤตแล้วต้องเข้าไอซียู พอเข้าไปเขาบอกว่าเจาะเลือดน้อง ต้องวางยาน้องเพื่อให้น้องหลับเพื่อเจาะเลือด เพราะน้องดิ้น แต่หมอให้หนูลงไปซื้อของข้างล่างเพื่อซื้อแพมเพิร์ส ซื้อนมให้พยาบาลที่อยู่ในไอซียู

ยาย : เขาบอกให้ลงไปซื้อเดี๋ยวนั้นเลย เดี๋ยวเขาดูเด็กให้ เบลไปประมาณ 20 นาทียังซื้อของไม่เสร็จพยาบาลโทรมาตามให้มาเดี๋ยวนี้ น้องไม่ได้สติ เบลถามว่าเป็นอะไร เขาบอกว่าเขาวางยาแล้วไม่ได้สติเลย

หมอจะเจาะเลือดแล้วกลัวเด็กจะดิ้น หมอเลยวางยา แต่พอวางยาแล้วเด็กไม่ตื่นอีกเลย?
แม่ : ค่ะ ภายในเวลาครึ่ง ชม.ที่หนูลงไปซื้อของ ตอนเราลงไปซื้อของ น้องยังปกติค่ะยังเรียกแม่ๆ หนูยังได้ยิน แต่เขาไม่ให้หนูเข้า

ยืนยันว่าหมอบอกว่าเขาวางยา?
ยาย : หนูมีไทม์ไลน์ มีคำพูดของหมอ เมื่อวานหมอยืนยันว่าจำเป็นต้องวางยา หนูบันทึกเสียงไว้ด้วย แล้วคลุมเครือทุกเรื่อง หนูยืนยันอย่างเดียวว่าสาเหตุการตายหนูไม้รับฟังแล้ว เขาจะมาลงไม่ได้ว่าติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วหัวใจวาย หัวใจวายเกิดจากอะไรได้ ก็คุณวางยาเขาเอง

หมอลงว่าติดเชื้อในกระแสเลือดและหัวใจวายเฉียบพลัน แต่คุณแม่กับคุณยายยืนยันว่าลูกเป็นแบบนี้เพราะมีการวางยา หมอโทรมาบอกว่าวางยาแล้วเด็กยังไม่ฟื้นเลย แต่พอหมอมาลงแบบนี้เลยติดใจมาก?
ยาย : ตอนเช้ามีการให้น้องเซ็นบอกว่าจะเจาะที่ขาสองข้างสวนหัวใจ ให้น้องเซ็นไว้ก่อน คงต้องทำอาทิตย์หน้าแหละวันอังคาร เพราะน้องไม่สบายตอนนั้น มีไข้อยู่ แต่ตอนน้องเสียชีวิต เลือดเต็มข้างขาอยู่ แต่เมื่อวานเขาบอกว่าเขาเจาะเลือด

คุณบอกว่ามีการตกลงกันว่าจะมีการสวนหัวใจโดยเจาะที่ขาหนีบ แต่เป็นอาทิตย์หน้าเพราะน้องมีไข้ทำไม่ได้ ให้เซ็นชื่อไว้ก่อน อาทิตย์หน้าค่อยทำ แต่หลังจากน้องเสียชีวิต ขาหนีบน้องมีเลือดไหล กำลังจะบอกว่าน้องถูกสวนหัวใจ?
ยาย : เขาใช้คำว่าเจาะเลือด แต่สิ่งที่เขาให้เซ็นวันนั้นไม่ตรงกับสิ่งที่เขาพูด มันย้อนแย้ง

คุณแม่บอกว่าตอนลงไปซื้อของข้างล่างแล้วเด็กอยู่ในห้องไอซียู คุณหมอบอกว่าจะวางยาหรือเปล่า เอาชัดๆ?
แม่ : ไม่มีการบอกค่ะ บอกแค่ว่าเจาะเลือดเฉยๆ บอกว่าเจาะเลือด น้อเข้าห้องไอซียู เขาอาเข้าห้องเลย และโทรมาหาว่าให้แม่รีบขึ้นมาก่อน แล้วน้องก็ไปเลย เขาบอกว่าถ้าให้ยากระตุ้นหัวใจครึ่ง ชม. ปั๊มแล้วไม่ขึ้น เขาจะปล่อยน้องไปสบายแล้ว เพราะไม่อยากให้น้องเจ็บ

เขาพูดตอนไหนว่าวางยาสลบ?
แม่ : ตอนหนูลงไปซื้อของ เขาไม่ได้ขออนุญาตก่อน เขาบอกว่าเดี๋ยวเจาะเลือดนะ พอหนูลงไปเขาบอกวางยาแล้วน้องไม่ฟื้น ไม่มีการขออนุญาตางยาสลบค่ะ

จริงๆ ได้มั้ย?
ทนาย : ไม่ได้ครับ กรณีนี้กระทำอะไรต้องมีการแจ้งเจ้าของคนไข้ทราบก่อนถึงกระบวนการรักษาอย่างไร ไม่ใช่ว่าตัวคุณแม่ทราบว่าเจาะเลือด แต่แอบไปดำเนินการโดยพลการในการวางยาสลบแบบนี้ ผมว่าไม่ถูกต้องครับ

เปิดคลิปเสียงหมอ?
ยาย : เขาปิดบัง เขาบอกไม่อยู่ในเหตุการณ์วันที่ตาย รายละเอียดที่หนูถามเขาไม่ตอบ ไปตอบคนละเรื่องเลย

ที่คุยกับหมอ ธงของคุณยายคืออะไร?
ยาย : วางยาน้องทำไม ถ้าบอกน้องความดันต่ำ สมควรดมยาเหรอพี่

ทนาย : คุณยายสงสัยว่าเหตุที่เสียชีวืตจะเกิดจากการวางยา

ยาย : ใช่ค่ะ เพราะเขาพูดเองว่าวางยาแล้วน้องไม่ได้สติเลย หนูถามว่าทำไมต้องวางยา คุณหมอบอกมันจำเป็นค่ะ เพราะเด็กดิ้นค่ะ ทุดแผนกตอบแบบนี้หมด

ทนาย : วันเจาะเลือดต้องมีการวางยา ช่วงกลางวันมีการเจาะไปแล้ว 4 ครั้ง แต่มาเสียชีวิตในช่วงหัวค่ำ คือการเจาะเลือดอีกเหมือนกัน ทำไมต้องเจาะเลือดมากขนาดนั้น

แม่ : เขาบอกต้องเอาเลือดไปตรวจ เพราะไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

มันแปลกเรื่องการวางยาโดยไม่มีการแจ้ง มันต้องมีการคุยกันก่อนหรือเปล่า?
ทนาย : เรื่องการผ่าตัดลิ้นหัวใจ การวินิจฉัยของแพทย์ตอนนั้นถูกต้องมั้ย ถ้าแพทย์ใช้ความสามารถใช้วิจารณญาณถูกต้องแล้วก็ต้องยอมรับตรงนั้นไป สองเหตุแห่งการเสียชีวิตเกิดจากการวางยาสลบหรือไม่ กรณีนี้ต้องมาดูว่าการวางยาคุณมีสิทธิหรือเปล่า ระเบียบพูดเลยว่าคนไข้มีสิทธิเข้าถึง ทราบถึงวิธีการรักษา ต้องบอกพ่อแม่ว่จะรักษาแบบนี้ แล้วกฎหมายกำหนดเลยว่าประมาทหรือเปล่า

ในกรณีที่คุณเจาะเลือดช่วงเช้า 4 เข็ม ช่วงกลางคืนอีก และที่สงสัยที่สุดช่วงกลางวัน 4 เข็มนั้นก็ไม่ต้องวางยา แต่การเจาะเลือดช่วงกลางคืน ทำไมต้องวางยา ความเห็นส่วนตัวผมถ้ามีข้อมูลแค่นี้ตอนนี้น่าจะมีส่วนประมาท

ยาย : เมื่อวานมีนักข่าวเข้าไปกับเรา มีการพูดคุยกัน เขาเถียงย้อนแย้งกลับมาว่าไม่ได้วางยา หนูเลยถามกลับไปว่าการที่คุณวางยาสลบ ต้องให้แม่เซ็นด้วยหรือเปล่า เขาไม่ตอบแล้วจะมีการเปลี่ยนคำถามหนูทันที เขาบอกน้องมีภาวะความดันต่ำ หนูถามว่าแล้วคุณวางยาทำไม เขาเปลี่ยนคำถามทันที

ทนาย : รพ.มีการรักษาต่อเนื่อง ย่อมมีข้อมูลเวชระเบียนอยู่แล้ว ดังนั้น การวางยาหรือใช้วิสัญญีแพทย์ต้องระมัดระวังมาก ผมงง สงสัย ว่าทำไมทำเหมือนกับไม่ได้รู้ข้อมูลเดิมเลยแล้วไปวางยา

ยาย : เขาบอกไม่รู้สาเหตุการตาย หมอไม่ทราบ เราเป็นคนธรรมดาจะรู้ได้ยังไง

ประเด็นขาหนีบมีเลือดออก?
ยาย : เลือดเต็มข้างขา

หลังเสียชีวิตมีร่องรอยถูกเจาะตรงขาหนีบเป็นรูใหญ่?
ยาย : ค่ะ เอาพลาสเตอร์แปะ ยังมีพลาสเตอร์อยู่ที่ศพ หนูไม่แกะอะไร ร่องรอยยังมีอยู่หมด เพราะหนูไม่ให้ฉีดยา

เจาะขาหนีบเท่าที่ทราบ สวนหัวใจทำบอลลูนหรือเปล่า?
ยาย : ภาษาแพทย์คืออะไรหนูไม่รู้ ตอนนี้หนูไม่รับฟัง ไม่เชื่อแพทย์แล้ว

รพ.แจ้งมาแล้วอยากจะช่วยเหลือ?
ยาย : หนูไม่อยากฟังแล้ว อยากทราบว่าจะรับผิดชอบยังไง เขาบอกว่าเยียวยา 2.5 แสน ไม่เกิน 4 แสน หนูเอาจำนวนที่สูงสุด หนูทำการบ้านมาดี

ธงของคุณคือให้เขาชดใช้?
ยาย : ต้องรับผิดชอบค่ะ แม้เขาไม่เหลืออะไรแล้วและดำเนินคดีด้วย เราสูญเสียนะ ตอนนี้หนูก็โทษตัวเอง ถ้าเขาไม่ไป รพ.นั้นคงไม่ตาย

ทนาย : ต้องเอาเด็กไปชันสูตรพลิกศพ และแจ้งความให้พนักงานสอบสวนรายละเอียดว่าเป็นเหตุประมาท ทำให้คนถึงแก่ความตายหรือเปล่า ต้องไปดำเนินการ ส่วนการเจรจาก็ลองดู มันขนานกันไปได้

ทวิตเตอร์หนึ่งบอกว่ากูเกิลยังรู้เลยในผู้ป่วยที่ต้องดมยาขณะตรวจต้องเซ็นใบยินยอมรับการตรวจรักษาด้วย ถ้าผู้ป่วยเซ็นเองไม่ได้ ต้องให้ผู้ดูแลผู้ป่วยโดยชอบธรรมเซ็นแทน?

ทนาย : ชัดเจนว่าพ่อแม่ต้องขออนุญาตก่อน

แม่ : แม้แต่คำขอโทษสักคำยังไม่มีเลยค่ะ เรียกไปแผนกโน้นแผนกนี้จนหนูงง

ยาย : คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง วนไปวนมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image