15 คนงานติดโควิดสายพันธุ์อินเดีย เข้าห้องแยกโรคแล้ว ยันไม่มีผลต่อวัคซีน
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงรายละเอียดการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย จำนวน 15 ราย ในแคมป์คนงานย่านหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ว่า ในการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทีมสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค มีการสุ่มตรวจหาเชื้อและถอดรหัสสายพันธุ์ไวรัสเป็นระยะๆ ซึ่งเมื่อถอดรหัสของกลุ่มผู้ติดเชื้อจากแคมป์คนงานดังกล่าว ที่มีการติดเชื้อหลายร้อยราย พบว่า การตรวจหาเชื้อในวันเดียวกัน แต่มี 15 ราย ที่พบว่าเป็นสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งอยู่ในระยะที่สามารถแพร่โรคได้
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มดังกล่าวเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกความดันลบ (Isolation) ในโรงพยาบาล เพื่อแยกโซนกับผู้ป่วยรายอื่นที่มีการป่วยในระยะเวลาใกล้กัน และว่า สายพันธุ์อินเดียที่ตรวจพบในขณะนี้ มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้เร็วเหมือนกับสายพันธุ์อังกฤษ แต่ยังไม่มีผลกับยารักษา และวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังสามารถใช้ได้ปกติ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนเพิ่งได้รับรายงานว่ามีสายพันธุ์อินเดียเข้ามา แต่ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งนี้จะมีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เรื่องนี้ต้องแจ้งยังบริษัทให้ดูแลคนงานมากกว่านี้ ซึ่งที่ประชุม ศบค.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้กำชับให้กวดขันในแคมป์คนงานให้มาก บริษัทที่ว่าจ้างคนงานต้องมีมาตรการที่เข้มข้น ทั้งนี้กรณีการติดเชื้อในคนงานนั้นสิ่งสำคัญคือแยกคนติดเชื้อฯ ออกตรวจค้นหาเชื้อให้ชัวร์ หากเจอติดเชื้อต้องแยกออก ส่วนการก่อสร้างจะดำเนินการต่อหรือไม่ก็อยู่ที่บริษัทหากไม่อยากให้งานชะงักก็ไปหาคนงานใหม่ แต่ที่แน่ๆ คือต้องซีลแคมป์ ทำบับเบิล แอนด์ ซีล
“ส่วนวัคซีนที่ได้นำมาฉีดในประเทศไทยทั้งแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวคนั้น จากการสอบถามทีมแพทย์ยังให้ความมั่นใจว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยทั้ง 2 ชนิด ยังป้องกันการหนักและป้องกันการเสียชีวิตได้เมื่อติดโควิดสายพันธุ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ต้องให้ทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ชี้แจงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ” รัฐมนตรีว่าการ สธ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีดราม่าดาราไปฉีดวัคซีน นายอนุทิน กล่าวว่า ในจุดบริการของ สธ.ไม่มีแน่นอน เพราะเราใช้วิธีการนัดผ่านหมอพร้อม หรือโทรเข้ามาผ่านสายด่วนหมอพร้อม และ รพ.ต่างๆ ส่วนกรณีดาราไปฉีดแล้วเชิญชวนคนไปฉีดนั้น ก็เหมาะสม สมควรทำ ตนไม่ได้ไปไล่ถามว่ามาฉีดได้อย่างไร จริงๆ เราต้องการให้คนมาฉีดวัคซีนทั่วประเทศอยู่แล้ว
