ห่วงโควิดพันธุ์อังกฤษ-อินเดียยอดพุ่ง สธ.จับตาใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพบว่าในประเทศไทยเริ่มพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย หรือ สายพันธุ์เดลต้า เพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดพบแล้ว 235 ราย ใน 10 จังหวัด ว่า ปัจจุบันในประเทศไทยพบเชื้อโควิด-19 แล้ว 3 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์อังกฤษ หรือสายพันธุ์แอลฟ่า พบร้อยละ 90 ขณะที่สายพันธุ์แอฟริกาใต้ พบแล้ว 26 ราย แต่ยังสามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ และสายพันธุ์อินเดีย ที่พบเพิ่มขึ้นในช่วงนี้
“คาดว่าในวันนี้ พรุ่งนี้้ สายพันธุ์อินเดีย และสายพันธุ์อังกฤษ จะมีรายงานว่าพบมากขึ้นอีกนับร้อยราย โดยที่มีความกังวลคือ สายพันธุ์อินเดียที่มีการศึกษาพบว่าเชื้อแพร่ได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษอีกระดับหนึ่ง และถึงแม้จะสูงกว่าไม่มากแต่หากไม่มีการควบคุมการแพร่ระบาด เชื่อว่าในอนาคตสายพันธุ์อินเดียจะเข้ามาทดแทนสายพันธุ์อังกฤษได้ เพราะสามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่า” นพ.ศุภกิจ กล่าวและว่า ดังนั้น ขณะนี้วิธีการเดียวที่ดีที่สุดคือ ต้องฉีดวัคซีนป้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า จะสามารถควบคุมได้หรือไม่ นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลในขณะนี้วัคซีนที่ใช้อยู่สามารถควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในเร็วๆนี้ กรมวิทยาศาสตร์ฯ เตรียมจะเพาะเชื้อสายพันธุ์อินเดียและสายพันธุ์แอฟริกาใต้ เพื่อติดตามพัฒนาการต่อไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังกังวลคือ พบข้อมูลว่าสายพันธุ์แอฟริกาใต้เริ่มมีรายงานในต่างประเทศระบุว่าเชื้อดื้อต่อวัคซีน จึงต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด แม้ว่าวันนี้ในประเทศไทยจะสามารถควบคุมสายพันธุ์นี้ให้อยู่ในวงจำกัดได้ก็ตาม
