โควิดลามสมุทรปราการ ทั้ง จว. 41 คลัสเตอร์ สธ.นำร่องยุทธศาสตร์ ‘ขนมครก’ สู้!

โควิดลามสมุทรปราการ ทั้ง จว. 41 คลัสเตอร์ สธ.นำร่องยุทธศาสตร์ ‘ขนมครก’ สู้!

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้ประชุมหารือร่วมกับ
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ นพ.พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรปราการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลใน จ.สมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดใน จ.สมุทรปราการ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากวันละ 100 ราย เพิ่มเป็น 300-500 ราย

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ภาพรวมมีการติดเชื้อทุกอำเภอ มีคลัสเตอร์เกิดขึ้นจำนวนมาก 41 คลัสเตอร์ ทั้งการติดเชื้อในโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ตลาด ชุมชน คอนโดมิเนียม และแคมป์คนงานก่อสร้าง เนื่องจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ ในการควบคุมการระบาดของโรค จึงเสนอให้ใช้ยุทธศาสตร์ “ขนมครก” โดยสุ่มตรวจพื้นที่ต่างๆ ในชุมชนที่มีการติดเชื้อ เมื่อพบผู้ติดเชื้อนำเข้าสู่การรักษา และใช้วัคซีนฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น โดยกำหนดจำนวนให้เหมาะสมเพื่อควบคุมโรคในพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ ประสบความสำเร็จมาแล้วในพื้นที่เขตบางแคและคลองเตย กรุงเทพมหานคร

“เมื่อดำเนินการควบคุมโรคแบบขนมครกเป็นจุดเล็กๆ ในทุกพื้นที่ และกระจายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะควบคุมโรคเป็นพื้นที่ใหญ่ได้ โดยจะนำร่องในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ
ในการควบคุมโรค เนื่องจากการควบคุมโรคจะสำเร็จได้ ต้องอาศัยมาตรการทางสังคม ความมั่นคง และ
ทางปกครองเข้ามาร่วมด้วย ไม่ใช่ด้านสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

Advertisement

สำหรับการควบคุมโรคในโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ปลัด สธ.กล่าวว่า จะใช้มาตรการบับเบิล แอนด์ ซีล (Bubble and Seal) ในโรงงานขนาดใหญ่ที่มีการติดเชื้อแล้ว ทำให้ไม่เสียแรงงาน และยังควบคุมโรคไม่ให้แพร่เชื้อสู่ชุมชนได้ รวมถึงการหารือทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการโรงงานที่ยังไม่ติดเชื้อเพื่อใช้มาตรการนี้ด้วย จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้

ข้อมูลล่าสุด วันที่ 22 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 696 ราย เสียชีวิต 5 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 13,990 ราย เสียชีวิตสะสม 134 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.9 อยู่ระหว่างการรักษา 3,255 ราย รักษาหายแล้ว 10,735 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทย 6,573 ราย เมียนมา 3,556 ราย กัมพูชา 1,308 ราย ลาว 84 ราย จีน 20 ราย อินเดีย 12 ราย และอื่นๆ 16 ราย” นพ.เกียรติภูมิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image