‘เพทาย’ ห่วงระบบสาธารณสุขล่ม พา ‘เศรษฐกิจพัง’ จี้รัฐเร่งตัดสินใจแก้ไข
แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนอาจารย์หมอ เริ่มออกมาเคลื่อนไหวแสดงความห่วงใยต่อระบบสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากยอดผู้ติดโควิดไม่ได้ลดน้อยลงขณะที่บุคลากรทางการแพทย์มีจำนวนเท่าเดิม จึงต้องทำงานหนักกันมากขึ้นซึ่งหากกลุ่มนี้เป็นอะไรไป จึงหวั่นว่าจะส่งผลกระทบไปยังระบบอื่นๆ ด้วย
ล่าสุด ศ.ดร.เพทาย เย็นจิตโสมนัส นักวิชาการคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์แสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าว
“อย่าหัวเราะทีหลัง” เพื่อให้ดังกว่าเลยครับ เพราะต่อไปนี้คนไทย ทั้งผู้บริหารประเทศ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แพทย์พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้กับโควิด และประชาชนคนไทย คงจะจุก หัวเราะไม่ออกกันไปทั้งประเทศอีกนาน
สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ กำลังรออยู่ข้างหน้า ในระยะเวลาใกล้ๆ นี้แล้ว เราจะช้ากว่าไวรัสอย่างน้อย 2 สัปดาห์เสมอ (ดร. แอนโทนี เฟาซี่ กล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหม่ๆ)
มีคนออกมาเตือนกันมากมายและอย่างยาวนาน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจและบางคนกลับโดนถล่มอย่างหนัก คนที่ออกมาเตือนและถูกถล่ม จนเกิดดราม่า ก็คงจะไม่อยากหัวเราะเยาะ หรือคงจะหัวเราะไม่ออก กับความเจ็บป่วยล้มตายของประชาชนคนไทยเช่นกัน
“กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้” นโยบายและการตัดสินใจ คงจะต้องรวดเร็ว เร่งด่วน เด็ดขาด และจริงจัง เพื่อเซฟส่วนที่เหลือ และไม่ให้สถานการณ์ถลำและเลวร้ายลงไปอีก จนระบบสาธารณสุขล่มสลายและระบบเศรษฐกิจพังพินาศ จนกู่ไม่กลับอีกยาว
นอกจากนี้ ศ.ดร.เพทาย ระบุด้วยว่า ถ้าระบบสาธารณสุขล่ม ระบบเศรษฐกิจก็ล่ม ถ้าระบบสาธารณสุขรอด ระบบเศรษฐกิจก็รอด
