ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่ม ชู ‘อัมพวาโมเดล’

พ.ต.อ.เผด็จ (ซ้าย) - จะเด็จ (ขวา)

ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่ม ชู ‘อัมพวาโมเดล’

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวในการเสวนาออนไลน์ “แกะรอยโควิด-19 กับความรุนแรงในครอบครัว” จัดโดยมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และภาคเครือข่าย สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า ข้อมูลจากหลายองค์กรชี้ตรงกันว่าโควิด-19 ทำให้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมีมากขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ คนขาดรายได้ ไม่มีงานทำ และเกิดความเครียดสะสม รวมถึงการล็อกดาวน์ ปิดสถานที่ ที่ผู้ชายใช้พบปะเพื่อนฝูง ทำให้ต่องอยู่ในครอบครัวมากขึ้น ผู้ชายส่วนหนึ่งยังปรับตัวไม่ได้ ทำให้เกิดความตึงเครียดในครอบครัวมากขึ้น และเริ่มใช้ความรุนแรงทั้งวาขา และการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ด้วยความรู้สึกว่ามีอำนาจเหนือกว่าภรรยา ลูก

ดังนั้นต้องบังคับใช้กฏหมายการกระทำความรุนแรงในครอบครัวอย่างเคร่งครัด ไม่มองเป็นเรื่องส่วนตัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องทำงานเชิงรุก โดยให้อาสาสมัครในชุมชนเฝ้าระวังในครอบครัวที่เกิดปัญหาความรุนแรงและหาทางช่วยเหลือได้ทันท่วงที การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับช่องทางการขอความช่วยเหลือ เช่น สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร 1300

พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน ผกก.สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล่าวถึง “อัมพวาโมเดล” พื้นที่ต้นแบบแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว โดยมีตำรวจเป็นเจ้าภาพบูรราการหน่วยงานและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องว่า จากสถานการณ์ความเครียด ส่งผลให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น ตำรวจจะรอให้เกิดเหตุก่อนค่อยเข้าไปแก้ไขคงเอาไม่อยู่ ฉะนั้นต้องทำงานเชิงรุกด้วยการเฝ้าระวังเหตุ จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเครือข่ายอัมพวาโมเดล ที่ทำงานเป็นทีมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พม. บ้านพักเด็ก ฝ่ายปกครอง รพ.สต. ผู้นำชุมชน ครู และเจ้าอาวาสบางกะพ้อม และมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว ตั้งแต่การลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวที่มีการใช้ความรุนแรง ครอบครัวที่มีเด็กกลุ่มเสี่ยงและมีแนวโน้มก่ออาชญากรรม รวมถึงมีช่องทางสื่อสารมาที่ตำรวจ เพื่อให้เข้าช่วยเหลือโดยเร็ว

“จากการทำงานเชิงรุก ทำให้พบว่าในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงนั้น จะมีปัญหาหลายด้าน ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ขณะที่ความร่วมมือนี้สามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าการทำงานแบบต่างคนต่างทำ อย่างไรก็ดีจากนี้จะทำเรื่องการป้องกันในระดับชุมชน สร้างวัฒนธรรมเผือก หรือการไม่นิ่งเฉยเมื่อเกิดความรุนแรง การลุกขึ้นมาเอาธุระกับปัญหาสังคม ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไประงับเหตุ” พ.ต.อ.เผด็จกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image