‘อนุทิน’ ชี้การเมืองด้อยค่าระบบสาธารณสุข ย้ำ รัฐบาลไม่เคยเอาชีวิตคนและโรคระบาดสร้างความนิยม

‘อนุทิน’ ชี้การเมืองด้อยค่าระบบสาธารณสุข ย้ำ! รัฐบาลไม่เคยเอาชีวิตคนและโรคระบาดมาสร้างความนิยม

เมื่อวันที่ 15 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวช่วงหนึ่งในงานมอบใบขอบคุณผู้บริจาค 11 ราย ในการสร้าง รพ.สนามปิยะเวทไอซียู 120 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักสีแดง ที่โรงพยาบาล (รพ.) ปิยะเวท ว่าวันนี้มาเห็นนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุขมาตรฐานสูงของ รพ.ปิยะเวท ในการสร้าง รพ.สนามระดับสูง รองรับผู้ป่วยอาการหนัก และสร้างความมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขไทยไม่ล่ม แต่มีความพร้อมมากขึ้นเรื่อยๆ

“ระบบสาธารณสุขเราถูกด้อยค่ามาก มีการตั้งความคาดหวังสูงเกินกว่าระบบรองรับได้ และการด้อยค่าทางการเมืองให้เกิดความตื่นตระหนก ทำลายล้างระหว่างกันทางการเมือง แต่รัฐบาลไม่ได้กังวลใจ เราไม่เคยเอาประชาชน คนป่วย สถานการณ์การระบาดของโรคมาเป็นเครื่องมือสร้างความนิยมทางการเมือง นายกรัฐมนตรีมีแต่พูดเรื่องสนับสนุนสาธารณสุขทุกอย่างให้ความปกติของคนไทยกลับมามากที่สุด ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวด้วยว่า วัคซีนไม่ได้ป้องกันติดเชื้อ 100% แต่ป้องกันป่วยหนักตายเกือบ 100%

“ส่วนการฉีดใต้ผิวหนังซึ่งจะเพิ่มจำนวนฉีดวัคซีนได้ อาจมีผื่นแดงขึ้นก็จะดราม่าอีก ตอนนี้ยังมีวัคซีนเพียงพอ ยังไม่จำเป็นก็ฉีดปกติ ถ้าขาดแคลนก็ฉีดใต้ผิวหนัง ขณะที่ยาฟาวิพิราเวียร์มีสำรองไว้เพียงพอ กำลังจะส่งไปสต๊อกประจำจังหวัด 5 หมื่น ถึง 1 แสนเม็ด ตามความใหญ่เล็กจังหวัด จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเบิกจ่าย

Advertisement

“ส่วนการฉีดไฟเซอร์ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปนั้น ก็ผ่านการทดลองมาแล้ว ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรรมก่ีอาหารและยา (อย.) แล้ว ซึ่ง อย.ก็มาตรฐานสูง และที่ซื้อมาและเจรจรายอมเขาเยอะ เพราะต้องการนำมาฉีดให้เด็ก 12-18 ปี เพื่อจะได้กลับไปเรียนไปใช้ชีวิตได้ปกติ มีสังคม มีเพื่อน มีชีวิตวัยเรียนปกติที่สุด ทั้งนี้ ปัจจุบันเรามีเด็กอายุ 12-18 ปี ไม่เกิน 6 ล้านคน และสั่งไฟเซอร์มา 30 ล้านโดส ก็ใช้ประมาณครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็ฉีดในคนที่ฉีดวัคซีนประเภทอื่นไม่ได้” นายอนุทินกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image