สปสช.จ่ายเบื้องต้น ผู้รับผลกระทบวัคซีนโควิดแล้วกว่า 157 ล้านบาท

สปสช.จ่ายเบื้องต้น ผู้รับผลกระทบวัคซีนโควิดแล้วกว่า 157 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 กันยายน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช.เปิดให้ผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถยื่นขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลจนถึงวันที่ 10 กันยายน 2564 มีผู้ที่ได้รับผลกระทบยื่นคำร้อง จำนวน 4,333 ราย และยังอยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมอีก 105 ราย โดยคณะอนุกรรมการระดับเขตได้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยแล้ว 3,224 ราย และพิจารณาไม่จ่าย 1,004 ราย รวมเป็นเงินที่จ่ายชดเชยเบื้องต้นไปแล้วทั้งสิ้น 157,295,000 บาท

นพ.จเด็จกล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ตามความรุนแรงของอาการไม่พึงประสงค์นั้นๆ โดยระดับ 1 มีอาการป่วยต้องรักษาต่อเนื่อง จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท มีผู้รับเงินเยียวยาแล้ว 2,892 ราย ระดับ 2 เกิดความเสียหายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะหรือพิการจนมีผลต่อการดำรงชีวิต จ่ายไม่เกิน 2.4 แสนบาท มีผู้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 21 ราย และระดับ 3 กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร จ่ายไม่เกิน 4 แสนบาท มีญาติผู้เสียชีวิตรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว 311 ราย

นพ.จเด็จกล่าวด้วยว่า หากพิจารณาแยกตามเขต พบว่า สปสช.เขต 13 กรุงเทพมหานคร มีผู้ยื่นคำร้องเข้ามามากที่สุด จำนวน 914 ราย รองลงมาคือ สปสช.เขต 1 เชียงใหม่ จำนวน 618 ราย และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี 499 ราย อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากจำนวนเงินที่มีการจ่ายเยียวยาไป พบว่า สปสช.เขต 13 กรุงเทพฯ จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 17,033,000 บาท รองลงมา สปสช.เขต 4 สระบุรี 16,971,500 บาท และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี จ่ายแล้ว 15,576,700 บาท

“หลักการจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ สปสช.นั้น ไม่ไช่การพิสูจน์ถูกผิดหรือชี้ชัดว่าเป็นผลที่เกิดจากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด แต่เป็นเงินเยียวยาเพื่อลดผลกระทบที่เกิดแก่ประชาชนเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ซึ่งแม้ในภายหลังจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าสาเหตุของอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวัคซีน ก็ไม่เป็นเหตุให้เรียกเงินคืนแต่อย่างใด” เลขาธิการ สปสช.กล่าว

Advertisement

นพ.จเด็จกล่าวว่า ผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ใน 3 จุด คือที่หน่วยบริการที่ไปรับการฉีด ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือที่ สปสช.เขตพื้นที่ ซึ่งหลังจากได้รับคำร้องแล้ว จะมีคณะอนุกรรมการในระดับเขตซึ่งประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้พิจารณาว่าจะจ่ายเงินเยียวยาหรือไม่และจ่ายเป็นจำนวนเท่าใด ตามหลักฐานทางการแพทย์และระดับความหนักเบาของอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ระดับเขตพื้นที่จะเร่งพิจารณาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งในกรณีที่ผู้ยื่นคำร้องไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัย ก็มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อเลขาธิการ สปสช. ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลการวินิจฉัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image