สธ.แนะเด็กฉีด ‘เชื้อเป็น’ ยังไม่ลงตัวปมรับ ‘เชื้อตาย’

สธ.แนะเด็กฉีด ‘เชื้อเป็น’ ยังไม่ลงตัวปมรับ ‘เชื้อตาย’

เมื่อวันที่ 20 กันยายน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เปิดโครงการ “Vacc 2 School” นำร่องฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 10-18 ปี กว่า 2,000 คน จากเป้าหมายกว่า 50,000 คน ใน 89 โรงเรียน

ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ให้เด็กและเยาวชนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัย มี 2 ประเด็นคือ ศึกษาดูอาการข้างเคียง และการป้องกันการระบาดในโรงเรียนและในครอบครัวของเด็ก แต่ประเด็นสำคัญที่สุดเป็นสิ่งที่นักวิชาการทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ไม่ได้คำนึงถึงกัน คือเรื่องของสังคม เด็กต้องไปโรงเรียน ต้องไปเจอเพื่อน จะดูประเด็นเรื่องผลของวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ และหวังว่าข้อมูลจากการศึกษานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะทำการรับรอง เพราะต้องการให้ใช้ในต่างจังหวัดเพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็ก ซึ่งในการเลือกวัคซีนก็จะเลือกวัคซีนที่มีผลข้างเคียงน้อยเพื่อให้เด็กกลับไปมีชีวิตปกติบ้าง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีมีผู้ปกครองที่อยากให้ลูกฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตยังไม่ได้ปรับทะเบียนการใช้วัคซีนกับ อย. แม้แต่ในประเทศบริษัทผู้ผลิตเองก็ยังไม่ได้ปรับเช่นกัน ดังนั้น การฉีดวัคซีนที่นอกเหนือจากการจดทะเบียนจะต้องไปยื่นเอกสารขออนุญาตเพิ่มเติมจาก อย.

ขณะที่ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มได้ยื่นเอกสารกับ อย.เพื่อขออนุญาตขยายกลุ่มอายุการฉีดจากเดิมกำหนดไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป เป็นตั้งแต่ 3 ปีขึ้น แต่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ อย.และผู้ทรงคุณวุฒิหลายหน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณาด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2564 มีมติยังไม่อนุญาต เนื่องจากข้อมูลความปลอดภันในการใช้วัคซีนยังไม่เพียงพอ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image