รมช.สธ.เผยชัด พ.ร.ก.โรคติดต่อ ให้อำนาจนายกฯ นั่งประธาน ปรับโครงสร้าง คกก.ควบคุมโรคใหม่ ดึงทุกกระทรวงทำงานบูรณาการ
เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ. … (พ.ร.ก.ควบคุมโรค) โดยเป็นการเห็นชอบแต่ละประเด็น ไม่มีการนำเสนอตัวร่าง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเองก็ไม่ได้เสนอตัวร่าง แต่เสนอความต้องการไป ดังนั้นจึงมีการแก้ไขและเพิ่มมาตรา 44/13 ใจความสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันเจ้าหน้าที่ บุคลากรการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานโควิด-19 แต่ไม่รวมคณะผู้บริหาร เช่น รัฐมนตรี โดยมีผลย้อนหลังไปถึงเดือน มี.ค.2563 ยืนยันว่า ไม่ได้มีการนิรโทษกรรม เพราะตามหลัก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครอบคลุมอยู่แล้ว ทั้งนี้ (ร่าง) พ.ร.ก.โรคติดต่อ ก็มีการเพิ่มโทษปรับในผู้ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับโรคติดต่อที่มากขึ้นด้วย
“ร่างตัวนี้ เมื่อผ่านมติ ครม.แล้ว หลังจากนั้นจะออกเป็น พ.ร.ก.โรคติดต่อ ซึ่งเป็นอำนาจของท่านนายกรัฐมนตรีในการลงนาม แต่จะลงนามเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับท่านนายกฯ จะเห็นชอบตาทความเหมาะสม ซึ่งทุกคนก็จะได้เห็นตัวประกาศพร้อมกันในราชกิจจานุเบกษา” นายสาธิตกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.โรคติดต่อ ดังกล่าวแล้ว หลังจากนั้น จะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยุบ ศบค. ที่ตั้งขึ้นมาภายใต้อำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ไม่มีแล้ว ส่วนอำนาจสั่งการจะอยู่ที่คณะกรรมการควบคุมโรคคิดต่อแห่งชาติ โดยที่ในภาวะฉุกเฉินจะมีโครงสร้างใหม่ คือ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีเป็นรองประธาน ส่วนคณะกรรมการต่างๆ ประกอบด้วย รมว./ รมช. กระทรวงมหาดไทย รมว./รมช. สาธารณสุข รวมถึงปลัดกระทรวงฯ ด้วย
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ฉบับที่กำลังแก้ไขอยู่นั้นจะมีการดำเนินการคู่ขนานกันไปอย่างไร หรือเมื่อแล้วเสร็จ จะมีการปรับมาใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อ อยู่ในระหว่างปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเล็กน้อย หลังจากนั้นก็จะนำเข้าสภาฯ ตอนนี้ก็ออก พ.ร.ก. มาใช้ก่อน ซึ่งในอนาคตหากแล้วเสร็จก็จะมีการประกาศใช้ต่อไป
