กรมอนามัย คาดอีก 20 ปี ประชากรไทยลดเหลือ 36 ล้าน น่าห่วงเด็กต่ำกว่า 15 คลอดลูก 6 ราย/วัน

กรมอนามัย คาดอีก 20 ปี ประชากรไทยลดเหลือ 36 ล้าน เกิดน้อยด้อยคุณภาพ น่าห่วงเด็กต่ำกว่า15 คลอดลูกวันละ 6 ราย

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พีระยุทธ สานุกูล ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์ประชากรไทยยังคงน่าเป็นห่วง ค่านิยมของคนรุ่นใหม่อยู่เป็นโสดมากขึ้น ทำให้อัตราการเพิ่มประชากรลดลงจากร้อยละ 2.7 ในพ.ศ.2513 เหลือเพียงร้อยละ 0.2 ในพ.ศ.2563 ส่งผลให้อัตราเจริญพันธุ์รวมอยู่ในระดับต่ำ โดยผู้หญิงอายุ 15-49 ปีมีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.53 คน หรือ ซึ่งต่ำกว่าระดับทดแทน และอัตราการเกิดยังมีเพียง 10.2 ต่อประชากรพันคนเท่านั้น ทั้งนี้ ปี 2564 ถือเป็นปีแรกที่อัตราการเกิดและตายเท่ากัน จากนั้นในปีต่อๆ ไปอัตราการเกิดจากน้อยกว่าอัตราการตาย ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้คาดการณ์ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะเหลือเพียง 36 ล้านคน

นายแพทย์พีระยุทธ กล่าวอีกว่า แต่ในสถานการณ์การเกิดน้อย ก็พบการเกิดที่ด้อยคุณภาพ เนื่องตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น โดยข้อมูลพบว่าวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี ให้กำเนิดบุตรทุกวันเฉลี่ยวันละ 6 คน หรือคิดเป็น 2,000 คนต่อปี ส่วนผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี ที่ให้กำเนิดบุตรอยู่ที่ 63,831 รายต่อปี อีกทั้งพบว่าสาเหตุการท้องในวัยรุ่น ร้อยละ 50 เกิดจากท้องโดยไม่ตั้งใจมีเพศสัมพันธ์ ส่วนร้อยละ 30 ไม่มีความรู้คุมกำเนิดอย่างถูกต้อง ร้อยละ 10 มีเพศสัมพันธ์ขณะมึนเมา และร้อยละ 10 มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตระหนัก เช่น คิดว่ามีเซ็กซ์ 1-2 ครั้ง ไม่ท้อง

“และแม้จะมี พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นฯ ซึ่งทำให้อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นลดลงไปมาก แต่ก็ต้องส่งเสริมความรู้เรื่องและบริการการคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง อาทิ บริการฝังยาคุมกำเนิดกึ่งถาวรฟรีสิทธิ สปสช. ในวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี, การส่งเสริมความรู้เรื่องเพศศึกษา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเรื่องเพศให้วัยรุ่น ผ่านไลน์ออฟฟิเชียลแอคเคาท์ TEEN CUP เป็นต้น รวมถึงส่งเสริมให้นักเรียนหญิงตั้งครรภ์ได้เรียนต่อจนจบการศึกษา ตลอดจนสามารถเข้าถึงบริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยตามความสมัครใจ”

Advertisement

อย่างไรก็ตาม การคุมกำเนิดเป็นหน้าที่ของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย นอกจากการคุมกำเนิดอย่างถูกต้องแล้ว ยังต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลังจากพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นสูงขึ้น 2 เท่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image