สวทช.นัดแต่งดำเป่านกหวีด ค้าน กก.สรรหา ผอ.แบบมีข้อสงสัย
วันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่องกระบวนการคัดสรรผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยที่ นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช.คนปัจจุบัน ที่จะหมดวาระ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2565 ซึ่งการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการหมดวาระของผู้อำนวยการคนปัจจุบันเป็นเวลา 6 เดือน โดยเวลานี้มีแคนดิเดตหรือผู้ที่น่าจะได้รับการเลือกจากคณะกรรมการ 2 คน ซึ่งคนหนึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของ สวทช.เอง และอีกคนหนึ่งเป็นนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ จากสถาบันอื่น แต่มีกระแสข่าวสะพัดว่าผู้ใหญ่ในกระทรวงได้มีคำสั่งลับๆ ออกมา ให้คณะกรรมการสรรหาเลือกเอาคนนอกเข้ามาเป็นผู้อำนวยการ สวทช.คนใหม่ โดยในวันที่ 27 กันยายนนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารของ สวทช.ให้คณะกรรมการบริหารนำวาระการพิจารณาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวที่ออกมาดังกล่าวนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช.อย่างมาก เพราะไม่เห็นด้วยกับวิธีการคัดเลือกดังกล่าวเนื่องจากน่าสงสัยว่าทำไมจึงต้องเร่งรัดการประชุมสรรหาเร็วเกินไป จึงได้มีการนัดแนะกันว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารของ สวทช.ในวันที่ 27 กันยายน พนักงานและเจ้าหน้าที่ สวทช.จะแต่งชุดดำ พร้อมนำนกหวีดไปเป่าหน้าห้องประชุม ที่มีการประชุมกันในประเด็นดังกล่าวนี้
แหล่งข่าวจาก สวทช.คนหนึ่ง กล่าวว่า คนใน สวทช.ไม่ได้ขัดขวางการนำคนนอกเข้ามาเป็นผู้อำนวยการ สวทช. แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องวิธีการสรรหาที่เต็มไปด้วยคำถาม และข้อสงสัยเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่เป็นแคนดิเดตบางคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่ามีหน่วยงานทางวิชาการบางแห่งไม่รับรองในเรื่องคุณสมบัติด้านจริยธรรม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก
แหล่งข่าวจาก อว.คนหนึ่ง กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีการชี้ตัวลงไปจากผู้ใหญ่ใน อว.ว่า เจาะจงให้ใครไปนั่งเป็นผู้อำนวยการ สวทช.ในเวลานี้ เพราะการเลือกและสรรหาผู้อำนวยการ สวทช.เพิ่งจะประกาศไปเมื่อไม่นานมานี้ และทุกคนก็ทราบดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทำกันอย่างพิถีพิถันเพียงใด ตลอดจนหากมีการต่อสู้ระหว่างนักการเมืองกับคนของ สวทช.ไม่เคยมีใครเอาชนะ สวทช.ได้ นักการเมืองที่เข้ามาทำงานใน อว.ก็ทราบเรื่องนี้ดี และเท่าที่รู้จักกับผู้ใหญ่ที่มีข่าวสะพัดว่าเป็นผู้ชี้ตัวว่าที่ผู้อำนวยการ สวทช.ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น ที่เกิดกระแสข่าวเรื่องนี้ขึ้น เพราะอยากจะกันคนนอกไม่ให้เข้ามาเป็นผู้อำนวยการ สวทช.มากกว่า และเชื่อว่าในที่สุด ผู้ที่จะมาเป็นผู้อำนวยการ สวทช.ก็คือคนใน สวทช.
