อนุทินย้ำ วัคซีนไฟเซอร์ 1 ล้านโดส ‘คนเขาจะให้ เขาก็ให้เอง’
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงนโยบายการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ว่า ทางการแพทย์และกรมควบคุมโรคนั้น มีขั้นตอนอยู่แล้ว โดยจะต้องเป็นการหารือ ระหว่างฝ่ายวิชาการและฝ่ายปฏิบัติ ทุกอย่างต้องเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก
ซึ่งสำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กอายุ 12-17 ปีนั้น นายอนุทินกล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์จะเข้ามาในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งกว่าจะเริ่มฉีดได้ก็จะเป็นในต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เพราะทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องไปทำการตรวจสอบก่อน
ผู้สื่อข่าวถามกรณีวัคซีนไฟเซอร์ที่ทางสหรัฐอเมริกาจะบริจาคให้กับประเทศไทย นายอนุทินกล่าวว่า ทางสถานทูตของสหรัฐอเมริกาเพิ่งออกแถลงการณ์ว่าในขณะนี้กำลังจัดเตรียมเอกสารอยู่
“ซึ่งทุกฝ่ายก็พูดว่ายังไม่มีเอกสารสำหรับวัคซีนไฟเซอร์ 1 ล้านโดสหลัง แต่ทั้งหมด 2.5 ล้านโดสนั้น มาถึงไทยแล้ว 1.5 ล้านโดส แต่ 1 ล้านโดสหลังเป็นเพียงเจตจำนง หรือเจตนารมณ์ที่ทางสหรัฐจะมอบให้ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ จึงไม่มีเรื่องของการล่าช้า หรือการส่งเอกสารใดๆ กลับไปทั้งสิ้นอย่างที่มีคนพูดกัน” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินยังกล่าวย้ำอีกว่า ประเทศไทยไม่สามารถทวงวัคซีนจากสหรัฐได้เนื่องจากผู้ให้ไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไร ซึ่งในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่สามารถทำได้ คนเขาจะให้เขาก็ให้เอง หากเขาเสนอให้มาเมื่อไหร่ ไม่มีทางที่จะล่าช้า ยกตัวอย่าง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีแอสตร้าเซนเนก้าจากรัฐบาลญี่ปุ่น จำนวน 4 แสนกว่าโดส ติดต่อไม่ถึง 2 สัปดาห์ ทุกอย่างมาถึงประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้ เมื่อเช้าก็ได้รับบริจาคจากสิงคโปร์ เป็นชุดตรวจเอทีเค (ATK) จำนวน 2 แสนชุด และเป็นวัคซีนสวอบของแอสตร้าฯ “ที่ยืมมาก่อน” จำนวนแสนกว่าโดส ซึ่งก็ใช้เวลาในการติดต่อเพียงแค่ 2 อาทิตย์เช่นกัน
นอกจากนี้ นายอนุทินยังกล่าวแซวนักข่าวอีกว่า ผู้สื่อข่าวอย่าลืมไปฉีดวัคซีนเข็ม 3 นะ
