ศบค.วอนหน่วยงานราชการทำงานร่วมกัน ไม่ให้ขัดแย้ง เฝ้าระวังงานประเพณีไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่

ศบค.วอนหน่วยงานราชการทำงานร่วมกัน ไม่ให้ขัดแย้ง เฝ้าระวังงานประเพณีไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ แนะผู้จัดเทศกาลกินเจ เข้มมาตรการ Covid free setting

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 กันยายน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 10,414 ราย แบ่งเป็นโดยเป็นผู้ป่วยในประเทศ 10,226 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ตรวจพบระบบเฝ้าระวังและบริการ 9,044 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,182 ราย จากเรือนจำ 178 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,591,829 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 11,580 ราย รวมรักษาหายป่วยสะสม 1,459,786 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 115,423 ราย พบผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนัก 3,232 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 729 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 122 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 16,620 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ แบ่งเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศ 10,414 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,044 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,182 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 178 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าพักที่สถานที่กักตัว 10 ราย จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 10 อันดับ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 1,579 ราย 2.ชลบุรี 772 ราย 3.สมุทรปราการ 587 ราย 4.ระยอง 545 ราย 5.สงขลา 517 ราย 6.นราธิวาส 485 ราย 7.ยะลา 452 ราย 8.ราชบุรี 281 ราย 9.ปราจีนบุรี 257 ราย 10.จันทบุรี 225 ราย

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 122 ราย ชาย 59 ราย หญิง 63 ราย เป็นชาวไทย 120 ราย เมียนมา 2 ราย อายุเฉลี่ย 68 ปี อายุน้อยสุด 26 ปี อายุมากสุด 92 ปี ผู้เสียชีวิตพบสูงสุดใน กทม.และปริมณฑล 61 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคประจำตัว จากความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง พบผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป 80 ราย อายุน้อยกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 30 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 11 ราย หญิงตั้งครรภ์ 1 ราย จาก จ.ชัยภูมิ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับวัคซีน เดินทางมาจากฉะเชิงเทรา ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อจากคนรู้จัก คนในครอบครัว

Advertisement

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า การตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit หรือ ATK ทั้งประเทศ จำนวน 1 แสนคน พบเชื้อ 3-5% วันนี้พบเชื้อ 4% หรือ 4,000 ราย ยกเว้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผลออกมาเป็นบวกค่อนข้างสูง คิดเป็น 10% จึงเน้นย้ำให้เฝ้าระวังสัมผัสใกล้ชิดกับวัยทำงาน ซึ่งบุคคลหนุ่มสาวอาจติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ สามารถดำเนินชีวิตได้ปกติ ไปสัมผัสกับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ทำให้มีอาการป่วยหนัก หรือเสียชีวิตได้ โดยเน้นย้ำแต่ละจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมาย 608 ด้วย ส่วน กทม. ปริมณฑล และต่างจังหวัดมีทิศทางผู้ป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

“นอกจากนี้ ยังมีการติดเชื้อในชุมชนที่มีการรวมกลุ่ม อาทิ ที่โรงเรียนนายสิบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ล้งผลไม้ในหลายจังหวัด เพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลผลไม้ มีคนงานไปเก็บผลไม้ และมีแรงงานต่างด้าว เกิดการสัมผัสใกล้ชิด รวมทั้งโรงงาน และมีรายงานอย่างต่อเนื่อง คืองานศพ โดยมีที่ จ.จันทบุรี และสงขลา ขอให้ผู้จัดรักษามาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

“งดการจัดเลี้ยง การรับประทานอาหารร่วมกัน เพราะจะเป็นจุดอ่อน เนื่องจากต้องเปิดหน้ากากอนามัย ขอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำกับติดตามและกวดขัน ให้ทุกงานศพให้มีการเฝ้าระวังมาตรการสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด รวมถึงในวันที่ 4 ตุลาคมนี้จะมีการจัดเทศกาลกินเจ ขอเน้นย้ำจังหวัดให้ตรวจสอบมาตรการเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเจต้องมีมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด มีการเฝ้าระวัง โดยใช้มาตรการ Covid free setting หรือทำเป็นโรงเจปลอดโควิด โดยให้พนักงานฉีดวัคซีน หรือตรวจ ATK เพื่อความปลอดภัย

“ขณะที่เรายังคงต้องดำเนินชีวิตร่วมกับโควิด ในสถานการณ์ Covid free setting หรือการปรับวิถีใหม่ โดยโควิดยังคงอยู่ ผู้ประกอบการ ผู้จัดงาน ประชาชน ต้องร่วมคิดร่วมสร้าง จัดงานวิถีใหม่ งานศพ งานแต่งงาน คงไม่ต้องรอผู้ติดเชื้อเป็น 0 ถึงจะจัดงานได้ ต้องหาวิธีว่าจะจัดอย่างไร เพื่อยังคงวัฒนธรรมประเพณีดีงาม และปลอดภัย เป็นสิ่งท้าทายที่เราจะต้องก้าวผ่านไปให้ได้กับวิถีชีวิตแนวใหม่ ขอให้ทุกท่านถือว่าเราเป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่อยากให้สถานการณ์ดีขึ้น” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 726,805 โดส มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพิ่ม 249,459 ราย เข็มที่ 2 เพิ่ม 422,848 ราย เข็มที่ 3 เพิ่ม 54,498 ราย รวมสะสม 50,867,498 โดส แบ่งเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 31,582,548 ราย คิดเป็น 43.8% ของประชากร ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 18,098,882 ราย คิดเป็น 25.1% ของประชากร ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 1,186,068 ราย ปัจจุบันการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากกว่า หรือเท่ากับ 50% รวม 11 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ อยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พังงา ภูเก็ต ระนอง แต่เมื่อแยกกลุ่มผู้สูงอายุ มีการฉีดเกิน 70% แล้ว 6 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา พังงา ภูเก็ต ระนอง

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 426,535 ราย รวม 233,548,694 ราย อาการหนัก 91,541 ราย หายป่วย 210,354,003 ราย เสียชีวิต 4,778,694 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 105,633 ราย รวม 44,054,825 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,836 ราย รวม 711,222 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 21,901 ราย รวม 33,715,049 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 375 ราย รวม 447,781 ราย บราซิล พบเพิ่ม 15,395 ราย รวม 21,381,790 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 818 ราย รวม 595,520 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลก

พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ฝากขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานภาคเอกชน ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาที่ให้ความร่วมมืออย่างดี ประชาชนก็เข้าไปใช้บริการสถานบริการที่เปิด แต่ความพยายามตรงนี้อาจจะเกิดความขัดแย้ง ระหว่างหน่วยงานราชการ บางครั้งในหน่วยงานราชการบางส่วนที่กำหนดเป้าหมาย 100% อาจจะไปขัดแย้งกับเป้าหมายของอีกส่วนราชการหนึ่ง

“เช่น ถ้ากระทรวงสาธารณสุขป้องกันการให้โรงเรียนไม่มีการติดเชื้อด้วยการปิดโรงเรียน อาจจะเป็นมาตรการที่ดีที่สุด แต่อาจจะไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการที่จะทำให้บุตรหลานได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน ผอ.ศปก.ศบค.ขอให้หน่วยงานราชการสามารถบูรณาการงานที่รับผิดชอบรวมกัน อย่าให้การควบคุมโรคเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง

“และสุดท้ายกระทรวงสาธารณสุขคงจะไม่ใช่หน่วยงานหลักหน่วยงานเดียวที่ดูแลควบคุมโรค แต่ยังจำเป็นต้องมีกระทรวงศึกษาธิการเข้ามาดูโรงเรียน กระทรวงคมนาคมเข้ามาดูระบบขนส่งมวลชน รวมทั้งวัด โบสถ์ มัสยิด หากมีการติดเชื้อก็จะต้องมีกระทรวงวัฒนธรรมเข้ามาร่วมด้วย” พญ.อภิสมัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image