‘หมออนุตตร’ ยกผลการศึกษา บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยตัดใจเลิกบุหรี่มวน ซ้ำจูงใจกลุ่มไม่เคยสูบ ติดเพิ่ม

‘หมออนุตตร’ ยกผลการศึกษา บุหรี่ไฟฟ้าไม่ช่วยตัดใจเลิกบุหรี่มวน ซ้ำจูงใจกลุ่มไม่เคยสูบ ติดเพิ่ม

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Anutra Chittinandana ระบุว่า

ขณะที่บ้านเรามีความพยายามให้มีการซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย เพราะเห็นว่าหลายประเทศมีการใช้กัน และคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าอาจมีประโยชน์สำหรับคนที่สูบบุหรี่ หากใช้ทดแทนเพื่อเลิกบุหรี่และผลิตภัณฑ์ยาสูบอื่นๆ แต่ที่จริงเป็นเพียงการเปลี่ยนจากการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าเท่านั้น นอกจากนั้นคงต้องทราบถึงเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปนี้ด้วย……

บุหรี่ไฟฟ้าไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะกับเยาวชน คนวัยหนุ่มสาว หญิงตั้งครรภ์ บุหรี่ไฟฟ้ายังผลิตให้มีกลิ่นรสที่ใช้ได้ง่าย และส่วนใหญ่มีนิโคตินเป็นส่วนผสม ซึ่งทำให้ผู้ใช้ติดได้ง่าย จึงทำให้มีโอกาสทีผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน ติดบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายกว่า

Advertisement

ถึงแม้บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีผลเสียต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่ก็ยังคงมีอันตรายต่อสุขภาพ และยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพในการช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากการศึกษาที่ผ่านมายังไม่ชัดเจนว่าช่วยทำให้เลิกบุหรี่ได้ผลดีจริง หลายการศึกษากลับพบว่าผู้ที่เคยสูบบุหรี่แล้วใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลับไม่เลิกบุหรี่ แต่ใช้ร่วมกันทั้งบุหรี่กับบุหรี่ไฟฟ้า และที่สำคัญยังขาดข้อมูลผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของบุหรี่ไฟฟ้าด้วย

บุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่เป็นอันตรายที่ผู้ใช้ได้รับ ได้แก่ นิโคติน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจ อนุภาคขนาดเล็กมากที่สามารถหายใจเข้าไปในปอดได้ สารปรุงแต่งกลิ่น เช่น ไดอะซิทิล สารเคมีที่เชื่อมโยงกับโรคปอดร้ายแรง สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย สารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง โลหะหนัก เช่น นิกเกิล ดีบุก และตะกั่ว

ส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ามีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง ตัวอย่างเช่น บุหรี่ไฟฟ้าบางตัวที่วางตลาดว่ามีนิโคตินเป็นศูนย์ แต่ความจริงกลับพบว่ามีนิโคติน

Advertisement

หลังจากที่สหรัฐอเมริกาให้มีการใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้ พบว่ามีเด็กและวัยรุ่นใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน

ศูนย์ควบคุมโรค (CDC) และองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกาแสดงความเป็นห่วงต่อสุขภาพในอนาคตของเด็กและวัยรุ่นในเรื่องนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image