สงขลา โควิดยังพุ่งไม่หยุดติดเชื้ออีกกว่า 500 เร่งหามาตรการคุม
สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ฉุดไม่อยู่ล่าสุดพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีกกว่า 500 คน ต่อเนื่องมานาน 1 สัปดาห์ทำให้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาเตรียมที่จะหารือแนวทางในการควบคุมโรคอีกครั้ง
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมนี้ว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดสงขลายังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อสูงทะลุ 500 คนต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์และยังไม่มีทีท่าที่จะลดลง เนื่องจากเป็นการติดเชื้อในชุมชนและครอบครัว โดยในพื้นที่อำเภอจะนะ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ระบุว่า เดิมนั้นตรวจเชื้อเชิงรุกรายวันประมาณ 300 คน จะพบผู้ป่วยติดเชื้อประมาณ 30 คน แต่ในระยะนี้ ตรวจจำนวนเท่าเดิม แต่พบผู้ป่วยติดเชื้อในหลัก 100 คน ทำให้ต้องมีการจัดหาโรงพยาบาลสนาม สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรือผู้ป่วยโซนสีเขียว ซึ่งมีแล้วจำนวน 8 แห่ง เฉพาะในอำเภอจะนะ
ในขณะที่อำเภออื่นๆ นั้นก็พบการติดเชื้อจากคนในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังพบว่ายังมีประชาชนบางกลุ่มมีการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อาทิ การลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในร้านอาหาร การมั่วสุมเล่นการพนัน เป็นต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสงขลาพบผู้ป่วยติดเชื้อในวันนี้จำนวน 563 คน ซึ่งเป็นตัวเลข 500 คนต่อวัน ต่อเนื่องมานานกว่าสัปดาห์แล้ว สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย โดยยังมีผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 6,378 คน รักษาหายแล้ว 29,480 คน ซึ่งทำให้เตียงรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโดยเฉพาะในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงนั้น เต็มทั้งหมด ในขณะที่การเพิ่มเตียงทั้ง 2 กลุ่มนั้นทำได้ยาก เนื่องจากจะต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก
นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า มาตรการในการบรรเทาการติดเชื้อนั้น ทางฝ่ายสาธารณสุขเตรียมที่จะเสนอแนวทาง ในการเพิ่มมาตรการตรวจคัดกรองพื้นที่ระหว่างจังหวัด สำหรับกลุ่มคนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อีกครั้ง รวมถึงการ ระดมมาตรการป้องกัน ลงสู่ชุมชน รวมถึงการตรวจคัดกรองชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ รวมถึงอาจจะมีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อควบคุมโรค เข้ามาเสริม ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนร่วมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด
