สสน.ชี้ เร็วเกินไปจะระบุกำลังมีพายุอีกลูก ต้องรอดูคมปาซุขึ้นฝั่งที่เวียดนามก่อน

สสน.ชี้ เร็วเกินไปจะระบุกำลังมีพายุอีกลูก ต้องรอดูคมปาซุขึ้นฝั่งที่เวียดนามก่อน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นายสุทัศน์ วีสกุล ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้กล่าวถึงฝนที่ตกจากพายุไลออนร็อก ว่าตั้งแต่พายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณทางด้านประเทศเวียดนามตอนบน และปะทะกับความกดอากาศสูง พายุโดนดูดกลืนความชื้นไปมาก และขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงไปอย่างรวดเร็วแล้วนั้น ซึ่งตรงกับที่ได้คาดการณ์ไว้

“จากการติดตามปริมาณฝนที่ตกจากสถานีโทรมาตรตรวจวัดฝนอัตโนมัติในระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ พบว่า ได้มีฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (10 ตุลาคม) โดยมีฝนตกหนักอยู่บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร และสกลนคร โดยเฉพาะในเขตเมืองสกลนคร มีฝนตกหนักมีความเข้มสูงใน 1 ชั่วโมง ถึง 56 มิลลิเมตร ฝนตกรวม 140 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตเมือง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก” นายสุทัศน์กล่าว

ผู้อำนวยการ สสน.กล่าวว่า สำหรับภาคเหนือตอนบนมีฝนตกเข้ามาเช่นกัน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน รวมไปถึงเชียงใหม่ เป็นฝนเพียงระดับปานกลางถึงตกหนักบางจุดเท่านั้น ไม่ได้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังแต่อย่างไร อีกทั้งฝนที่ตกบริเวณนี้กลับเป็นผลดีต่อน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งยังมีน้ำน้อย จะได้น้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มมากขึ้น แม้กระทั่งเขื่อนน้ำอูนและเขื่อนน้ำพุงที่จังหวัดสกลนคร ก็ยังมีน้ำน้อยได้รับน้ำเพิ่มเช่นกัน

Advertisement

นายสุทัศน์กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่าเร็วๆ นี้ประเทศไทยจะมีพายุเข้ามาอีกลูกนั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนั้น เพราะจะต้องรอให้พายุ คมปาซุเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามและอ่อนกำลังลงก่อน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีความกดอากาศต่ำก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะยืนยันว่าจะมีพายุเกิดขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image