ปลัด สธ.ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิด 75 ล้านโดส สิ้น ต.ค.นี้ ชงสูตรไขว้เชื้อตาย-mRNA
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงทุกวันที่กระทรวงสาธารณสุข จะมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคโควิด-19 หรือ EOC เพื่อหารือมาตรการก่อนเสนอเข้า ศบค. โดยที่จะมีประชุมล่าสุดคือ วันที่ 14 ต.ค.64 เนื้อหาการประชุมเป็นการตอบโต้สถานการณ์รายวัน ปัญหาการระบาดเฉพาะพื้นที่
“อย่างวันนี้ ประชุมครั้งที่ 351 แล้ว เนื่องจากเราประชุมทุกวัน ทั้งนี้ จะมีการหารือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ อัพ เดตวัคซีนโควิด-19 และกรมต่างๆ ของ สธ. ก็จะได้รับมอบหมายไปทำข้อเสนอ การป้องกันโรค การรักษา การใช้เครื่องมือ ยาใหม่ๆ มาตรการกักตัว หรือการวางแผนจัดการ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้ามีการรายงานฉีดวัคซีนครบ 60.2 ล้านโดสแล้ว เป็นตามแผนที่วางไว้ว่าจะฉีดได้อย่างน้อย 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี สำหรับการครอบคลุม 70% ของประชากร 70 ล้านคน
ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า การฉีดวัคซีนไทย อยู่อันดับ 2 ของอาเซียน ครอบคลุม 50% ของประชากร รองจากอินโดนีเซีย แต่การครอบคลุมได้ดีกว่าประเทศใหญ่ๆ เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์
“ปัจจุบันวัคซีนทยอยมาดีขึ้น แต่ยังไม่ดีมาก มาเป็นคลื่นซัดเข้ามาแล้วปลายคลื่นก็น้อยลง ดังนั้น อาจเว้นวรรคในบางพื้นที่ ซึ่งอาศัยการบริหารจัดการ ทั้งนี้ เราฉีดวัคซีนแบบปูพรม การนัดหมาย หากจะฉีดวันละ 1 ล้านโดส ต้องนัดหมายล่วงหน้า 3-4 วัน อย่างน้อย โดยเฉพาะตอนนี้เรามีสูตรไขว้ เราจึงต้องมีวัคซีนในกระเป๋าอย่าง 3-4 ล้านโดส เพราะเรามีนโยบายว่าจะไม่เลื่อนนัด อย่างไรก็ตาม วัคซีนเรามีมากเพียงพอ ฉีดเฉลี่ยต่อวันเกือบ 1 ล้านโดส ตามที่เราตั้งใจไว้ ซึ่งในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ เราตั้งใจจะฉีดให้ได้ 75 ล้านโดส” นพ.เกียรติภูมิกล่าว และว่า การสำรวจปริมาณวัคซีนที่เข้ามาแล้ว 127-148 ล้านโดส ซึ่งรวมวัคซีนทางเลือก การบริจาค การแลกซื้อ (Swap vaccine) เราทำทุกทางให้มีวัคซีนมากที่สุด โดยวัคซีนหลายชนิดที่มี เราก็จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น วัคซีนสูตรไขว้ที่เป็นนวัตกรรมแนวทางวิชาการ
นพ.เกียรติภูมิกล่าวอีกว่า อนุกรรมการสร้างเสริมฯ ได้เสนอชุดความรู้พิจารณาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประเทศไทย โดยจะให้มีการฉีดวัคซีนไขว้มากขึ้น จากปัจจุบันวัคซีนสูตรไขว้ คือ วัคซีนชนิดเชื้อตาย กับวัคซีนไวรัลแวกเตอร์ (Viral Vector) ก็จะมีการเพิ่มไขว้ระหว่าง วัคซีนชนิดเชื้อตาย กับวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งมีข้อมูลการศึกษาออกมา ส่วนไวรัลเวกเตอร์ ก็ไขว้ด้วย mRNA แต่ mRNA ไม่มีไขว้กับใคร รายละเอียดจะมีการนำเสนอที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพราะเหตุใดจึงต้องไขว้อีก เนื่องจากปริมาณวัคซีนมีมากขึ้น นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กับแอสตร้าฯ ระหว่างเข็มที่ 1 และ 2 จะใช้เวลา 12 สัปดาห์ แต่เมื่อไขว้จะเหลือเพียง 3-4 สัปดาห์ ซึ่งการฉีดไขว้เป็นการใช้ระยะเวลาสั้นลง เป็นการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเข็มที่ 1 และ เข็มที่ 2 เท่ากันภายใน 1 เดือน
