รมว.สุชาติ รับนโยบายเปิดปท. 1 พ.ย. 64 เตรียมตำแหน่งงานว่างกว่า 2 แสนอัตรา

รมว.สุชาติ รับนโยบายเปิดปท. 1 พ.ย. 64 เตรียมตำแหน่งงานว่างกว่า 2 แสนอัตรา

กระทรวงแรงงงาน รวบรวมตำแหน่งงาน 222,871 อัตรา จากทั่วประเทศ พร้อมจับมือสถานประกอบการ โปรโมทตำแหน่งงาน รายได้ สวัสดิการ ผ่านคลิป VDO หวังเพิ่มข้อมูลช่วยตัดสินใจให้คนว่างงาน

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดในช่วงที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ต่างห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยมาโดยตลอด รัฐบาลจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนไปพร้อมกับปกป้องการทำมาหากินตามปกติของประชาชน วันนี้ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทยกำลังค่อยๆลดลง และมีกำหนดเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ภาคธุรกิจท่องเที่ยว บริการ การเดินทาง และความบันเทิง จะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ติดตามสถานการณ์การจ้างงานอย่างใกล้ชิด และมีข้อสั่งการให้อธิบดีกรมการจัดหางาน ติดตามการรวบรวมตำแหน่งงานทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยเน้นการทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่หารือและสำรวจความต้องการการจ้างงานจากสถานประกอบการอย่างเป็นปัจจุบันที่สุด เพื่อผลักดันให้เกิดการจ้างงานโดยเร็ว และทำหน้าที่ผู้ประสานการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเป็นระบบระหว่างจังหวัดที่มีความต้องการจ้างงานแต่ไม่มีกำลังแรงงาน กับจังหวัดที่มีคนต้องการหางานทำจำนวนมากแต่มีตำแหน่งงานว่างไม่เพียงพอที่จะรับเข้าทำงาน

“ผลการสำรวจความต้องการจ้างงานแรงงานไทยทั่วประเทศ ณ เดือนตุลาคม 2564 พบมีตำแหน่งงานว่าง 222,871 อัตรา โดยตำแหน่งงานว่าง 5 อันดับแรกที่นายจ้าง/สถานประกอบการต้องการมากที่สุด ได้แก่ 1.แรงงานด้านการประกอบ 2.แรงงานบรรจุภัณฑ์ 3.พนักงานขายของหน้าร้าน และสาธิตสินค้า 4.ตัวแทนจัดหาบริการทางธุรกิจและนายหน้าการค้าอื่นๆ และ 5.ตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า ซึ่งประเภทกิจการที่ต้องการจ้างงานมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมการผลิต 2.อุตสาหกรรมขายส่ง/ปลีกจักรยานยนต์ และการซ่อมจักรยานยนต์ 3. อุตสาหกรรมก่อสร้าง 4.อุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ และ 5.กิจกรรมทางการเงินและการประกันภัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

Advertisement

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า นอกจากการมอบหมายให้สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศลงพื้นที่จัดหางานเชิงรุกแล้ว กรมการจัดหางานยังร่วมมือกับสถานประกอบการชั้นนำ 42 แห่ง ใน 16 จังหวัด ที่มีความต้องการจ้างงานแรงงานไทยทดแทนแรงงานต่างด้าว อาทิ บริษัท ไทย-นิจิ อินดัสทรี จำกัด จังหวัดลำพูน บริษัท คาร์กิลมีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด จังหวัดนครราชสีมา บริษัท ไก่สดเซนทาโก จำกัด จังหวัดปทุมธานี บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จังหวัดเพชรบุรี บริษัท ศรีตรังโกลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด จังหวัดชลบุรี บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟีดแอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ในการจัดทำคลิปวีดีโอแนะนำสถานประกอบการ ตำแหน่งงานและลักษณะงาน รายได้ รวมถึงสวัสดิการต่างๆที่จะได้รับ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เพิ่มความเชื่อมั่น และโอกาสในการเข้าทำงาน แก่กลุ่มผู้สมัครงานคนไทยที่มีระดับการศึกษาไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อทำงานในตำแหน่งพนักงานฝ่ายผลิต พนักงานขาย พนักงานประจำร้าน พนักงานจัดเรียงสินค้า ฯลฯ ซึ่งอย่างน้อยจะได้รับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามวุฒิการศึกษา รวมทั้งค่าทำงานล่วงเวลา เบี้ยขยัน และสวัสดิการต่างๆ ที่บริษัทกำหนด ได้มีงานทำ มีรายได้ สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป

ทั้งนี้ คนหางาน ผู้ว่างงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ผู้ที่ต้องการมีงานทำ และผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมคลิปวีดีโอแนะนำสถานประกอบการฯ ได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือติดต่อขอรับบริการจัดหางาน ณ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสมัครงานผ่านช่องทางการให้บริการจัดหางานรูปแบบออนไลน์ด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ ไทยมีงานทำ.doe.go.th เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปติดต่อที่สำนักงาน ลดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image