ศบค.เผย ยอดป่วยโควิด 10,111 ราย ห่วงภาคใต้ยังหนัก ผู้ติดเชื้อพุ่งต่อเนื่อง ส่ง ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรคลงพื้นที่สอบสวนโรค
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล
พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิดประจำวัน ว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10,111 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ 10,046 ราย ติดเชื้อจากการเดินทางจากต่างประเทศ 24 ราย คัดกรองในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 41 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 1,764,949 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,793,812 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้าน 10,612 ราย หายป่วยสะสม 1,640,824 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 1,668,250 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 63 คน เสียชีวิตสะสม 18,242 คน เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 จำนวน 18,336 คน ผู้ป่วยรักษาอยู่ 107,226 ราย รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 41,894 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 65,332 ราย อาการหนัก 2,831 ราย ใช้เครื่องช่วยหัวใจ 644 ราย
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 17 ตุลาคม 2564 มีผู้รับวัคซีน สะสมทั้งหมด จำนวน 65,677,794 โดส โดยวันที่ 17 ตุลาคม 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน
เข็มที่ 1 จำนวน 238,015 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 217,372 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 19,666 ราย
พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า เมื่อดูเส้นกราฟแนวโน้มผู้ติดเชื้อของประเทศ จะเห็นว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มลดลง สัดส่วนวันนี้เหลือแค่ 16% ซึ่งเป็นทิศทางการลดลงการติดเชื้ออย่างชัดเจน แต่เมื่อไปดูเส้นกราฟต่างจังหวัดก็มีทิศทางลดลงเช่นเดียวกันแต่ลดลงอย่างช้าๆ ส่วนการติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างเรื่อยๆสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 16 – 17% แต่วันนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 23% ซึ่งทางศบค.ชุดเล็ก ก็ได้มีการพูดคุยหารือวิเคราะห์ถึงสาเหตุการติดเชื้อด้วย
พญ.สุมนี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 63 คน แบ่งเป็นชาย 39 คน หญิง 24 คน เป็นคนไทย 59 คน เมียนมา 3 คน จีน 1 คน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากภาคใต้ถึง 21 คน แบ่งเป็นนครศรีธรรมราช 8 คน ภูเก็ตประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 3 คน สุราษฎร์ธานี นราธิวาส 2 ราย ยะลา ชุมพร สตูล 1 ราย ทั้งนี้ 94% ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีโรคประจำตัว
พญ.สุมนี กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับ 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่สูงสุด คือ 1.กรุงเทพมหานคร 1,046 ราย 2.ยะลา 756 ราย
3.นครศรีธรรมราช 615 ราย 4.สงขลา 579 ราย
5.ปัตตานี 502 ราย 6.นราธิวาส 466 ราย 7.ระยอง 402 ราย 8.ชลบุรี 354 ราย 9.เชียงใหม่ 314 ราย
และ10.สมุทรปราการ 247 ราย โดย 5 อันดับพบว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคใต้ ทั้งนี้ เมื่อมีการวิเคราะห์ถึงการติดเชื้อในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึงกลางเดือนตุลาคม พบว่าปัจจัยเสี่ยงนอกจากสถานบันเทิงแล้วยังมาจากเรือนจำผู้ต้องขัง โรงงาน และผู้มีอาการทางเดินหายใจที่มาจากพื้นที่เสี่ยง และพบผู้ติดเชื้อที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อในจังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี
พญ.สุมนี กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคลัสเตอร์อื่นๆที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง อาทิ คลัสเตอร์แคมป์ก่อสร้างที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง สหกรณ์กองทุนสวนยาง ที่ชลบุรี ล้งผลไม้ จังหวัดจันทบุรี ขณะที่คลัสเตอร์งานศพยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ ลำพูน ขอนแก่น เลย สระแก้วและกาญจนบุรี สำหรับสถานการณ์ภาคใต้ที่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและผู้เสียชีวิต ทางนายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้จัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิดในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ นอกจากนี้ ทางศบค.ชุดเล็ก ได้มีการปรึกษาหารือและจะมีการส่งผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมควบคุมโรคลงไปช่วยสอบสวนโรคในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มเติมด้วย
