สธ.สุ่มตรวจมาตรการโควิด-19 ในห้าง พบกว่า 80% สอบตกพบร้านอาหารไม่เว้นระยะ เมินตรวจ ATK

สธ.สุ่มตรวจมาตรการโควิด-19 ในห้าง พบกว่า 80% สอบตกพบร้านอาหารไม่เว้นระยะ เมินตรวจ ATK

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุววรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย แถลงผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้ มอลล์ ว่า จากการออกมาตรการโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง (Covid-19 Free Setting) ในห้างสรรพสินค้า และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อยกระดับความปลอดภัย 3 ด้าน ได้แก่ 1.สิ่งแวดล้อม เน้นทำงานความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ห้องน้ำ ความถี่ทุก 1-2 ชั่วโมง ชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีสัญลักษณ์ให้เว้นระยะห่างในพื้นที่ จำกัดเวลาใช้บริการ ซึ่งเน้นในกิจกรรมเสี่ยงไม่ควร 2 ชั่วโมง เช่น ร้านอาหาร นวดเพื่อสุขภาพ แผนไทย สปา ร้านสัก ร้านเสริมสวย ฟิตเนส โดยต้องมีระบบถ่ายเทอากาศจากภายนอกอาคาร เปิดพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ 2.ด้านพนักงาน ทุกคนควรฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามเกณฑ์ หรือเคยติดเชื้อมาก่อน 1-3 เดือน หรือ การตรวจแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ไม่ต้องตรวจทุกกิจการ แต่ให้พิจารณาตามความเสี่ยงทุก 3-7 วัน และ 3.ด้านผู้ใช้บริการ ให้ทุกคนคัดกรองความเสี่ยงก่อนเข้าร้าน เช่น แพลตฟอร์มไทยเซฟไทย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวสูงสุดหรือครอบจักรวาล (Universal Prevention)

“ผลการประเมินตนเองของห้างสรรพสินค้า ที่ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID-19 Plus จำนวน 354 แห่ง ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม พบว่า สามารถดำเนินตามมาตรการได้ทุกข้อ 343 แห่งคิดเป็น ร้อยละ 96.9 ส่วนที่ไม่ผ่านบางข้อ มี 11 แห่งคิดเป็น ร้อยละ 3.1 ทั้งนี้ มาตรการที่ปฏิบัติได้ดี คือ การทำสัญลักษณ์เว้นระยะห่าง ชำระเงินออนไลน์ มีฉากกั้นแคชเชียร์ การทำความสอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม ส่วนมาตรการที่ปฏิบัติได้ค่อนข้างน้อย คือ การจำกัดเวลาใช้บริการให้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง การจัดหาชุดตรวจ ATK คัดกรองพนักงาน รวมถึงการจัดชุดช้อนส้อมในฟู้ดคอร์สแบบแยกชุด” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ผลการสุ่มตรวจสถานประกอบการห้างสรรพสินค้า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.-18 ต.ค.64 จำนวน 15 แห่ง พบว่า มีการประเมินและผ่านทุกข้อ 3 แห่งคิดเป็น ร้อยละ 20 ผ่านบางข้อ 12 แห่งคิดเป็น ร้อยละ 80 ซึ่งมาตรการที่ทำได้ดียังคล้ายเดิม ส่วนมาตรการที่มีข้อจำกัดมาก คือ การจำกัดจำนวน การเว้นระยะห่าง เนื่องจากไม่สามารถควบคุมและเข้มงวดให้เกิดการปฏิบัติได้ โดยสิ่งที่เราพบในโซเซียล เมื่อไปสุ่มตรวจก็พบว่า ร้านอาหารไม่ได้จัดระยะห่างระหว่างที่นั่ง หรือบอกว่ามาด้วยกัน ก็ต้องการนั่งด้วยกัน การไม่เตรียมเจลแอลกอลฮฮล์ประจำโต๊ะอาหาร ห้องน้ำระบายอากาศได้ไม่ดีพอ และบุคลากรในกิจการเสี่ยงส่วนหนึ่งไม่ได้ตรวจ ATK หรือไม่สามารถตรวจได้ทุก 7 วัน รวมถึงไม่มีการตรวจสอบการคัดกรองความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะกิจการเสี่ยง ร้านนวด ฟิตเนส เป็นต้น

“สรุปผลการสุ่มตรวจสอบคล้องการสำรวจความเห็นผู้ใช้บริการวันที่ 1-15 ต.ค. จำนวน 2,069 คน พบว่าการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทำได้ดี แต่ยังไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะยังพบคนไทยห้างสวมหน้ากากถูกต้อง ร้อยละ 88 แต่ก็ยังมีคนสวไม่ถูกต้อง หรือไม่สวมบางเวลา ร้อยละ 12 ส่วนการเว้นระยะห่าง การมีฉากกั้นโดยห้างยังทำได้ดี ส่วนที่อาจจะยังทำได้ไม่ดี คือ การห้ามรวมตัวจุดใดจุดหนึ่ง การห้ามพนักงานรวมกลุ่มกัน การประชาสัมพันธ์จำกัดเวลาใช้บริการไม่เกิน 2 ชม. อย่างเพียงพอ ดังนั้นขอให้เข้มงวดขึ้น มีความรับผิดชอบตัวเอง และมีหน่วยงานกำกับตรวจสอบเป็นระยะ หากยังพบการฝ่าฝืนจะมีการแนะนำ ตักเตือน และลงโทษได้ตามลำดับ” นพ.สุวรรณชัย กล่าวและว่า ยังพบการฝ่าฝืนมาตรการ ดังนั้นขอให้ช่วยกันคนละไม้คนมือ หากมีความเสี่ยงหรืออาการคล้ายโควิด ขอให้หยุดอยู่บ้าน และตรวจ ATK แล้วจะผ่านโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image