ได้แน่! วัคซีนเข็ม 4 คนไป ตปท. ‘อนุทิน’ ลั่นพร้อมฉีดให้ถ้าติดต่อมา เผยเปิดปท. 10 วัน คุมโควิดดี
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เตรียมความพร้อมการเปิดประเทศและรองรับการระบาดโรคโควิด-19 ภาคกลาง ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ จ.นนทบุรี ว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการฯ วันนี้ เป็นการปรับจูนซึ่งกันและกัน ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ในฐานะเลขานุการฯ รวมถึง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ของแต่ละจังหวัด มาทำความคุ้นเคยกัน เตรียมความพร้อมสนับสนุนด้านสาธารณสุขร่วมกันเพื่อการเปิดประเทศ โดยจะดำเนินการให้ครบทุกภาค
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการเปิดประเทศตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา ผ่านมา 10 วัน ภาพรวมเป็นไปด้วยดี สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ การเดินทางเข้ามาของผู้เดินทางเป็นไปตามมาตรการคัดกรอง ตรวจหาเชื้อด้วยวิธีอาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี อาจมีขรุขระบ้าง ก็ได้แก้ไข นอกจากนี้ จะพยายามหามาตรการที่จะทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้น เช่น การตรวจสอบหลักฐานที่ผู้เดินทางนำมาแสดง หากทำได้เร็ว ก็ทำให้เกิดความรวดเร็วขึ้น
นายอนุทิน กล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการ ว่า จะค่อยๆ ดำเนินการ แต่ไม่ใช่ว่าจะจบท้ายด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเปิดผับบาร์อย่างเดียว แต่ต้องดูเรื่องโควิด ฟรี เซ็ตติ้ง (Covid-19 Free Setting) ว่ามีความพร้อมแค่ไหน แต่อย่างน้อยนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนทั้งเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 รวมถึงเข็มที่ 4 สำหรับผู้ที่มีความต้องการเดินทางไปต่างประเทศที่ปลายทางกำหนดว่าต้องรับวัคซีนชนิดใดโดยเฉพาะ เพื่อติดต่อธุรกิจ รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย นั้น ก็เป็นหนึ่งในโอกาสของการเปิดประเทศ เปิดเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้วกว่า 80 ล้านโดส ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เท่ากับฉีดไปกว่าร้อยละ 80 และรัฐบาลมีความพร้อมจัดหาวัคซีนให้ประชาชนต่อไป
“สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศที่ยังไม่เปิดรับวัคซีนแบบไขว้ เราก็ต้องฉีดเติมให้วัคซีนมีความสมบูรณ์ ให้เขาเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ ได้ ขอให้แจ้งความจำนงมา เราก็ฉีดให้” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภาพรวมหลังดำเนินการเปิดประเทศมา 10 วันนั้น พบผู้ติดเชื้อประมาณร้อยละ 0.07 ต่อวัน ถือว่าอัตราน้อยกว่าการติดเชื้อภายในประเทศไทยเอง ซึ่งอยู่ที่ราวๆ ร้อยละ 0.20 แต่ที่สำคัญคือ การติดเชื้อนั้นเจอได้ แต่อัตราการเสียชีวิตจะลดลง ซึ่งตอนนี้อัตราการเสียชีวิตในประเทศไทยถือว่าลดลงเรื่อยๆ เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งในจำนวนคนที่เสียชีวิตนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้น ขณะนี้ยุทธศาสตร์เราคือ ปูพรมฉีดให้หมด จากความพร้อมหลายๆ ด้านของเรา ปัจจัยหลักที่ตะทำให้เราต้องปิดประเทศอีกคือการกลายพันธุ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี
“ดังนั้น โดยสรุปเปิดประเทศ 10 วัน เป็นไปตามแผน และเป็นไปตามการคาดหมาย การควบคุมโรคทำได้อย่างเข็มข้น ใครจะว่าล่าช้า แต่เราถือว่าเราช้า แต่แน่นอน ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนเกิดการระบาด นี่คือหน้าที่หลักของเราในการควบคุมโรค ไม่ใช่เอาสะดวกอย่างเดียว แต่เราก็คำนึงถึงเรื่องนี้คือให้มีความสะดวกระดับหนึ่ง คู่กับการควบคุมป้องกันโรค ต้องให้มีความสมดุล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เขาเข้าใจ” นพ.โอภาส กล่าว
เมื่อถามถึงข้อสรุปในการจัดงานลอยกระทง ซึ่งมีหลายฝ่ายยังมีความกังวลเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดอีก นพ.โอภาส กล่าวว่า ถ้าเราจะอยู่กับมัน อะไรที่สามารถทดสอบระบบได้ เราก็ต้องทำ แต่ไม่ได้ปล่อยปละละเลย เราต้องสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น ตอนนี้ก็ถือเป็นช่วงที่ตัดสินใจยาก เพราะถ้าทำแบบนี้ อีกฝั่งหนึ่งก็ไม่ชอบ พอทำอีกแบบ อีกฝั่งก็ไม่ชอบ ดังนั้นต้องสร้างสมดุล เรียนรู้ มองภาพรวมตอนนี้ก็ถือว่าค่อนข้างโอเค ทั้งอัตราการเสียชีวิต อัตราการติดเชื้อ ความสามารถของระบสาธารณสุข เป็นต้น
