กทม.ตรวจเข้มร้านอาหารทั่วกรุงกว่าหมื่นราย พบไม่คุมโควิด 172 แห่ง สั่งปิดแล้ว 1

กทม.ตรวจเข้มร้านอาหารทั่วกรุงกว่าหมื่นราย พบไม่คุมโควิด 172 แห่ง สั่งปิดแล้ว 1

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม นพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ได้มีมติผ่อนคลายมาตรการ โดยร้านอาหารสามารถให้บริการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ถึง 23.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค 64 เป็นต้นมา กทม.ได้จัดชุดปฏิบัติการร่วม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัย สำนักเทศกิจ และสำนักงานเขต ได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกอ.รมน. ออกปฏิบัติการตรวจสอบร้านอาหารที่เปิดให้บริการทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร้านอาหารดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (SHA หรือ SHA Plus) มาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร COVID Free Setting และประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop COVID 2plus (TSC2+) สำหรับร้านอาหาร โดยได้มีการกำกับ ติดตาม สถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

รองปลัด กทม.กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประเภทร้านอาหารในกรุงเทพฯ โดยชุดปฏิบัติการตรวจร่วม ทั้ง 50 เขต ได้มีการตรวจไปแล้ว 10,161 แห่ง จากสถานประกอบการในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 15,840 แห่ง และพบว่ามีการดื่มสุราในสถานที่ที่ไม่ได้รับมาตรฐาน SHA 172 แห่ง ซึ่งสำนักงานเขตได้เข้าไปตักเตือนพร้อมให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐาน และสั่งปิดแล้ว 1 ราย ทั้งนี้ กทม.จะรายงานผลการตรวจต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เป็นประจำทุกวัน

“สำหรับจำนวนสถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ผ่านมาตรฐาน SHA /SHA Plus (ข้อมูล 1 ธ.ค.64 เวลา 08.00 น.) มีดังนี้ สถานประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯที่ได้รับอนุญาตดำเนินกิจการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA) มีทั้งหมด 9,380 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นภัตตาคาร/ร้านอาหาร 6,406 แห่ง ส่วนสถานประกอบการที่ผ่านมาตรฐาน SHA Plus มีทั้งหมด 1,641 แห่ง เป็นประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร 565 แห่ง สำหรับสถานประกอบการใดยังไม่ได้ขออนุญาตตามมาตรการ SHA/SHA Plus สามารถดำเนินขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://www.tourismthailand.org/thailandsha” นพ.ชวินทร์กล่าว

Advertisement

นพ.ชวินทร์กล่าวว่า ในส่วนของสถานบริการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เปิดให้บริการ ชุดปฏิบัติการร่วมได้มีการตรวจแนะนำสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการปรับปรุงสุขอนามัยให้ได้มาตรฐานตามมาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กร COVID Free Setting และประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop COVID 2plus (TSC2+) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้บริการหากมีประกาศผ่อนคลายอีกครั้ง จึงขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการ สมาคม ภัตตาคาร และร้านอาหารศึกษารายละเอียดมาตรการและมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image