ศบค.เร่งตาม 167 นทท.กลุ่มเสี่ยงจากแอฟริกา ตรวจ RT-PCR ซ้ำ แนะกลุ่มเสี่ยงต่ำ 453 คนดูอาการตัวเอง

ศบค.เร่งติดตาม 167 นทท.กลุ่มเสี่ยงจากแอฟริกา ตรวจ RT-PCR ซ้ำ แนะกลุ่มเสี่ยงต่ำ 453 คนดูอาการตัวเอง

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยรองโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลกอันดับ1 สหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อรวม 132,822 รายประเทศที่มีผู้คิดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ประเทศโปรแลนด์ เนอเทอร์แลนด์ ส่วนประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 24 สำหรับประเทศที่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน มีทั้งหมด 39 ประเทศ โดยเป็นประเทศที่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเพิ่มเติมคือ ประเทศกานา นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดีย ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นการพบเชื้อที่นำเข้าจากต่างประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อคิดแล้วไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากรประเทศนั้น ๆ แสดงให้เห็นว่า ยังไม่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธ์โอไมครอน ภายในประเทศของตนเอง

พญ.สุมนี กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธ์โอไมครอน ของประเทศไทย ประกาศมาตรการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และยังไม่มีการรับนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม และได้มีการติดตามผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกา อย่างต่อเนื่องโดยมีผู้มารายงาน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มที่เฝ้าระวัง จะเป็นกลุ่มที่เดินทางจาก 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยง วันที่ 15-27 พฤศจิกายน ทั้งหมด 333 คน ออกจากประเทศไปแล้ว 61 คน ครบ 14 วัน ไม่ต้องติดตามแล้ว 105 คน และกลุ่มที่ยังไม่ครบ14 จำนวน 167 คน กลุ่มนี้ต้องติดตามเพื่อให้มาตรวจ RT-PCR ซ้ำโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งได้มีการส่งข้อความไปถึงกลุ่มคนเหล่านี้ให้มาตรวจโดยเร็วที่สุด โดยติดตามได้แล้ว กว่า 50 คน ส่วนที่เหลือมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางต่าง ๆ

“ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ เป็นกลุ่มที่มาจากประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา มีทั้งหมด 453 คน กลุ่มนี้ไม่ต้องตรวจ RT-PCR ซ้ำ แต่ต้องติดตามอาการตัวเอง 14 วันหลังการกักตัว หากมีอาการให้ไปตรวจ RT-PCR สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันที่ 3 ธันวาคม 4,912 ราย รักษาหายแล้ว 5,844 คน ยังรักษาอยู่ 72,761 คน ผู้ป่วยหนัก 1,315 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 338 คน เสียชีวิต 33 คน รายงานผู้เสียชีวิต ร้อยละ94 ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปและกลุ่มโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงหลังมาจากคนใกล้ชิด โดยพบมากถึง 21 คน จากผู้เสียชีวิต 33 คน ติดจากคนรู้จัก 16 ราย ติดเชื้อภายในครอบครัว 5 ราย ดังนั้นมาตรการส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การล้างมือ เป็นต้น” พญ.สุมนี กล่าว

สำหรับ 10 จังหวัด ผู้ติดเชื้อสูงสุด ดังนี้ กรุงเทพฯ 685 คน นครศรีธรรมราช 414 คน สงขลา 312 คน ปัตตานี 209 คน สุราษฎร์ธานี 181 คน เชียงใหม่ 179 คน ชลบุรี 177 คน สมุทรปราการ 116 คน ขอนแก่น 103 คน และยะลา 103 คน ทุกจังหวัดมีทิศทางผู้ติดเชื้อน้อยลง และจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลย คือ มุกดาหาร และนครพนม ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อจากเทศกาลลอยกระทง ส่วนผู้ติดเชื้อในโรงเรียนและสถานศึกษา พบที่ ร้อยเอ็ด ยะลา ตราด และอุบลราชธานี อย่างไรก็ตามทุกคลัสเตอร์ที่ได้รับรายงาน จำนวนผู้ติดเชื้อไม่ถึงหลักสิบ แต่ก็ขอให้ปฏิบัติตามาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ที่ประชุมศบค.ชุดเล็ก มีจังหวัดที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวสำหรับเปิดประเทศเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ บุรีรัมย์ อุดรธานี หนองคาย และจังหวัดเลย โดยจังหวัดเหล่านี้ได้มีการเปิดกิจการ กิจกรรมภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย SHA Plus

Advertisement

สำหรับยอดผู้ฉีดวัคซีนสะสม วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 ธันวาคม รวม 94,280,248 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 2 ธันวาคม ยอดฉีดทั่วประเทศ 527,092 โดส เข็มที่ 1 จำนวน 207,136 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 246,818 ราย และเข็ม 3 จำนวน 73,138 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม 48,732,951 ราย เข็มที่ 2 สะสม 41,979,486 ราย และ เข็มที่ 3 สะสม 3,567,811 ราย ทั้งนี้ที่ประชุมเพิ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยงให้มากขึ้น เนื่องจากมีการระยาดเพิ่มขึ้นในประเทศ ที่มีการเปิดประเทศ ขณะที่ประเทศไทยก็มีการเปิดรับนักท่องเที่ยว รวมถึงมีการกลายพันธุ์ของเชื้อโอไมครอน เพราะฉะนั้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงยังเป็นกลุ่มเดิม คือ ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้มาฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของประขาชนทุกจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดนำร่องพื้นที่สีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ทั้งนี้ช่วงเดือนธันวาคม เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเปิดกิตการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย และขอให้ประชาชนเคร่งครัดมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรการส่วนบุคคลอย่างสูงสุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image