ไทยฉีดวัคซีนโควิดทะลุ 102 ล้านโดส อนุทินมอบโล่ 13 หน่วยงาน ยันมีพอบูสต์ให้ ปชช.
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการจัดงานแสดงความสำเร็จการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่หน่วยงานที่ส่งเสริมให้การฉีดวัคซีนบรรลุเป้าหมาย 100 ล้านโดส
นายอนุทินกล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา สธ.ดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ออกมาตรการต่างๆ ตลอดจนจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งความร่วมมือของหน่วยงาน บุคลากรทางการแพทย์ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ไทยควบคุมการระบาดได้ โดยเฉพาะที่เร่งรัดฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พำนักในประเทศมากที่สุด ในเป้าหมายการฉีดให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปี 2564 เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ลดความรุนแรงของการเกิดภาวะแทรกช้อน ลดการเสียชีวิต และรักษาระบบสุขภาพของประเทศ โดยเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.สามารถฉีดวัคชีนได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นเข็มแรกมากกว่า 50 ล้านโดส ครอบคลุมเป้าหมายกว่า 70%
“ขณะนี้ฉีดวัคซีนทะลุไปถึง 102 ล้านโดสแล้ว และยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ยังรับวัคซีนไม่ครบ ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดช่วยนำคนเหล่านั้นมารับวัคซีนให้ครบตามแนวทางแพทย์ เนื่องจากมีสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านก็พิสูจน์แล้ว การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์โดส ช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิต จึงต้องรณรงค์ให้คนมารับวัคซีนกันทั้งเข็ม 3-4 หรือในอนาคต เข็ม 5-6 ก็ตาม” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชน และทราบข้อมูลจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ออกแถลงการณ์ประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ช่วยป้องกันโอไมครอน ทั้งการติดเชื้อ ลดเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิต ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าโอไมครอนจะไม่แสดงฤทธิ์มากกว่าสายพันธุ์อื่นที่ไทยผ่านมาแล้ว เชื่อไทยจะสามารถคุมสถานการณ์ได้
“ต้องขอขอบคุณเครือข่ายสาธารณสุข อสม. จิตอาสาทั่วประเทศ ที่เห็นถึงความสำคัญในการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ภายใต้สถานการณ์ที่เร่งรัด จนทำให้ประชากรกลุ่มต่างๆ และผู้ที่พำนักในประเทศไทยได้รับวัคชีนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปีที่แล้วมีการระบาด แต่เราไม่มีวัคซีน แต่วันนี้เรามีวัคซีน สามารถตรวจหาสายพันธุ์โควิดได้รวดเร็ว มียาที่ผลิตเองและสามารถจัดหาจากต่างประเทศได้ และมีประสบการณ์ที่ได้สะสมมากว่า 2 ปี จึงขอให้ทุกอย่างน่าจะจบสิ้นในปีนี้” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า เพื่อขอบคุณทุกหน่วยงานในจังหวัดต่างๆ สธ.จึงได้ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกรางวัลการบริหารจัดการการฉีดวัคชีนโควิด-19 ยอดเยี่ยม เพื่อมอบโล่ประกาศเกียรติคุณเป็นขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรทุกคนที่ทุ่มเท เสียสละปฏิบัติหน้าที่ โดยมี นพ.สุเทพ เพชรมาก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการ คัดเลือกจังหวัด ได้แก่ 1.ฉีดเข็มที่ 1 ครอบคลุมประชากรกลุ่มเสี่ยง 5 อันดับสูงสุด 2.ฉีดเข็มที่ 1 ความครอบคลุมในภาพรวม 5 อันดับสูงสุด 3.จังหวัดที่บริหารจัดการฉีดวัคซีนยอดเยี่ยมระดับเขต พร้อมมอบโล่เกียรติคุณขอบคุณกรุงเทพมหานคร ในการร่วมฉีดวัคซีนโควิด-19 และมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่จังหวัดที่ร่วมดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศ
รายชื่อผู้ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณการจัดการงานความสำเร็จการฉีดวัคชีนโควิด 19
เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประเทศทะลุป้าหมาย 100 ล้านโดส
จังหวัดที่มีความครอบคลุมการฉีดวัคชีนภาพรวมสูงสุด
1.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี
2.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร
3.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
4.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต
5.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา
จังหวัดที่มีความครอบคลุมการฉีดวัคชีนในกลุ่ม 608 สูงสุด
1.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร
2.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
3.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี
4.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ
5.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง
จังหวัดที่บริหารจัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยอดเยี่ยมระดับเขต
1.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน
2.สำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์
3.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์
4.สำนักงานจังหวัดนนทบุรี
5.สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
6.สำนักงานจังหวัดระยอง
7.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น
8.สำนักงานจังหวัดอุดรธานี
9.สำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์
10.สำนักงานจังหวัดอำนาจเจริญ
11.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง
12.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง
13.สำนักงานจังหวัดนราธิวาส
