วราวุธ ชี้อยู่ระหว่างแจงสำนักงบฯ ของบกลางจ้าง ‘ผู้พิทักษ์ป่า’ เชื่อถ้าได้ จะไม่มีใครถูกเลิกจ้าง

วราวุธ ชี้อยู่ระหว่างแจงสำนักงบฯ ของบกลางจ้าง ‘ผู้พิทักษ์ป่า’ เชื่อถ้าได้ จะไม่มีใครถูกเลิกจ้าง

จากกรณีที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้พิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณในการจัดจ้างพนักงานพิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เนื่องจากมีการปรับลดงบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เหลือเพียง 8,534 ล้านบาท จากเดิมในปี 2564 ได้งบประมาณ 16,143 ล้านบาท ประกอบกับการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติ 155 แห่ง จากค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯปี 2564 ลดลงกว่า 975 ล้านบาท กรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกรมอุทยานฯต่อการจัดจ้างพนักงานพิทักษ์ป่า (พนักงานจ้างเหมา) ในการดูแลและคุ้มครองผืนป่าและสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งถูกเลิกจ้างถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เผยว่า กรมป่าไม้ได้รับการประสานงานจาก บมจ.ทีพีไอ โพลีน ยินดีเสนอสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งที่เป็นลูกจ้างทีโออาร์ (TOR) และพนักงานราชการที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าที่ไม่มีสวัสดิการทั่วประเทศ ประมาณ 4,500 คน ด้วยการทำประกันชีวิตและประกันภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า โดยกรมธรรม์ดังกล่าวมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มูลนิธิสืบฯ ร้องนายกฯ ผู้พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างกว่า 50% หลัง ปรับลดงบ ก.ทรัพยากรฯ
  • วราวุธ  ห่วงเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ทำประกันภัยให้ 4,500 พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ

ล่าสุด วันนี้ (21 มกราคม) นายวราวุธ เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า กรมป่าไม้มีพื้นที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศถึง 65 ล้านไร่ มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดและการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ รักษาป่า ควบคุมไฟป่า เกือบ 5 พันคนที่ต้องออกตรวจตรา ลาดตระเวนในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล และอาจพักแรมในพื้นที่ป่าเป็นปกติวิสัย ในบางครั้งอาจประสบภัยอันตรายต่างๆ จากกลุ่มบุคคลผู้หวังประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้ จนถึงขั้นบาดเจ็บ พิการ หรือทุพพลภาพ หรือถึงแก่ชีวิต ทำให้ครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังต้องได้รับความยากลำบากในการดำรงชีวิต ดังนั้น การมีกรมธรรม์ประกันภัยหรือประกันชีวิต ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นความมั่นคงในชีวิต

Advertisement

“ผมและผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมห่วงใยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ ที่ได้ทำหน้าที่อย่างเสียสละ และอุทิศตนเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นมรดกมอบแก่คนรุ่นหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ในหลายพื้นที่กำลังทำหน้าที่ดับไฟป่า ซึ่งเป็นการทำงานที่หนักท่ามกลางความร้อน ความเหน็ดเหนื่อย และอันตรายมาก

“แม้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะกำลังเผชิญปัญหาการถูกปรับลดงบประมาณ แต่ทางทีมผู้บริหารก็ได้พยายามประสานงานเพื่อหาเงินทุนมาส่งเสริมสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยขณะนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่จะเข้ามาสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งที่เป็นลูกจ้างทีโออาร์ (TOR) และพนักงานราชการที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าที่ไม่มีสวัสดิการทั่วประเทศ ประมาณ 4,500 คน

“ด้วยการทำประกันชีวิตและประกันภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานป่าไม้ที่ยังขาดแคลนสวัสดิการคุ้มครอง ที่เหมาะสมกับหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความเสียสละ

“สำหรับ กระแสข่าวการถูกลดงบประมาณ ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต้องถูกเลิกจ้าง-ลดจำนวนลงกว่าครึ่งนั้น ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ทำหนังสือยื่นขอจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง ให้สำนักงบประมาณพิจารณาถึงความจำเป็นในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เพื่อปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเข้าชี้แจงถึงความจำเป็นในการของบดังกล่าวไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง

“ผมเชื่อว่าสำนักงบประมาณจะเห็นถึงความจำเป็นและอนุมัติงบประมาณ หากเป็นไปตามคำขอ เราจะสามารถจ้างงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ได้ทั้งหมด และจะไม่มีใครถูกเลิกจ้าง หรือตัดเงินเดือนอีก เนื่องจากที่ผ่านมาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีกำลังพลไม่เพียงพออยู่แล้ว เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว การดูแลผืนป่าของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลมากถึง 10,000 ไร่ ในการรับมือกับการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่า”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image