หมอโอภาสชี้ตัวเลขติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นจริงตามคาด แต่ยังอยู่ในกราฟ จับตากระเพื่อมต่อเนื่องอีก 3 สัปดาห์
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย รายงานใหม่วันนี้สูงถึง 9,909 ราย พบจากการตรวจ ATK อีก 4,973 ราย ว่า สถานการณ์โควิด-19 ที่ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามที่ได้คาดการณ์ไว้ โดยตัวเลขสำคัญที่เราต้องติดตามคือผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิต วันนี้พบเสียชีวิตอยู่ที่ 22 ราย ยังเป็นตัวเลขที่ไม่เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งอัตราเสียชีวิตลดลง โดยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 และผู้ยังไม่รับวัคซีนโควิด หรือยังไม่รับวัคซีนบูสเตอร์โดส ทั้งนี้ ถือโอกาสเน้นย้ำว่าขอให้ลูกหลานในบ้านเร่งพากลุ่มเสี่ยงออกมารับวัคซีนตามกำหนด
นพ.โอภาสกล่าวว่า คลัสเตอร์ที่พบการติดเชื้อปัจจุบันคือคลัสเตอร์งานเลี้ยงสังสรรค์ งานศพ งานบุญ งานแต่ง งานบวช หรืองานกินเลี้ยง โดยเมื่อรับเชื้อมาแล้วก็เอาไปติดในครอบครัว ส่วนโรงงานพบบ้างแต่ยังไม่มาก โรงเรียนพบประปราย และโรงพยาบาล ส่วนใหญ่คิดจากข้างนอกแล้วไปติดในกลุ่มบุคลากร ไม่ใช่การติดจากการทำงาน อย่างไรก็ตาม อย่ากังวลเพียงตัวเลขติดเชื้อใหม่ เป็นสิ่งที่ไม่ได้นอกเหนือความคาดหมาย เพราะโอมิครอนติดเชื้อง่ายขึ้น ขอให้ดูตัวเลขภาพรวม
“ด้วยความรุนแรงของโรคน้อยลง คนมีภูมิต้านทานมากขึ้น เราต้องบาลานซ์ทั้งการควบคุมโรค และการดำเนินชีวิตของประชาชน มาตรการแรงไปก็กระทบประชาชน ซึ่งเราอยู่กับโรคมา 2 ปีแล้ว ก็ต้องพยายามทำให้เป็นโรคปกติ หลายประเทศก็ออกมาประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นกัน ทางยุโรปที่ติดเชื้อวันละเป็นแสนราย ก็ประกาศยกเลิกหลายๆ อย่าง ส่วนไทยเราก็ติดเชื้อไม่ถึงหมื่นราย แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะหยุดเท่านี้ แนวโน้มก็น่าจะเพิ่มขึ้นได้ใน 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า“ นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้เราจะทำให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น แต่เราต้องเข้มมาตรการต่างๆ ทั้งการสอบสวนโรค การติดตามผู้สัมผัสให้กักตัว ซึ่งความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ยังต้องอยู่ในมาตรการ VUCA สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง
“ช่วงที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกินข้าวกับคนอื่นๆ เราต้องระวังมาก” นพ.โอภาสกล่าว
เมื่อถามว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้คาดการณ์ว่า 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้น นพ.โอภาสกล่าวว่า ด้วยลักษณะของโรค ตามที่เราคาดไว้ตามเส้นกราฟ 3 เส้น คือสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ปานกลาง และดีที่สุด แม้ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ดีที่สุด แต่เมื่อพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็จะค่อยๆ ไต่ระดับตามเส้นกราฟต่อเนื่องสัก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งเราก็จะต้องพยายามคุมให้อยู่ในเส้นกราฟ
เมื่อถามว่าจะมีการปรับรูปแบบการรายงานตัวเลข ให้เหลือเพียงตัวเลขผู้ป่วยที่ต้องนอน รพ. หรือไม่นพ.โอภาสกล่าวว่า การปรับการรายงานก็พูดกันเยอะ แต่ก็มีหลายความเห็น เช่น หากเราไม่ปรับการรายงาน ก็อาจทำให้คนกลัวเกินไป ซึ่งยืนยันว่า แม้จะมีการปรับว่าไม่รายงานการติดเชื้อรายใหม่ แต่ก็มีข้อมูลในระบบทุกอย่างเราก็โปร่งใส เปิดเผยได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
