ผอ.กองระบาด เผย ตัวเลขติดเชื้อโควิดจะพีคสุดกลาง มี.ค. แต่ขอให้โฟกัสที่ผู้ป่วยหนัก-ตาย เตือน ลักลอบนำเข้าแรงงาน ทำระบาดซ้ำ
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เป็นลักษณะที่กระจายไปในทุกกลุ่ม ฟุ้งๆ ไปในทุกคลัสเตอร์ ไม่ว่าเป็นในวงครอบครัว สถานที่ทำงาน หรือ เพื่อนฝูง ส่วนใหญ่ติดจากการทำกิจกรรมร่วมกัน รับประทานอาหาร เพราะเป็นช่วงที่มีการถอดหน้ากากอนามัย ขณะที่ โอกาสติดเชื้อจากคนไม่รู้จักแทบไม่มี เพราะไม่มีการพูดคุย หรือ ทานอาหารร่วมกัน ทั้งนี้คาดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่นิ่งและจะไต่ระดับสูงขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้เริ่มมีการผ่อนคลายและกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“ปัจจัยสำคัญ ที่พบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น มาจากทั้งเชื้อโอมิครอน ที่ติดง่ายแพร่เร็ว แต่การป้องกันตนเองยังเหมือนเดิม การเปิดกิจกรรม กิจการต่างๆมากขึ้น ดังนั้น หากรับวัคซีนครบแล้ว รวมเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 และมีมาตรการส่วนบุคคล ที่เข้มแข็ง สวมหน้ากากอนามัย อย่างเคร่งครัด มีระยะห่าง และล้างมือ ก็คลายกังวลได้ส่วนหนึ่ง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวแต่ต้องระวังตัว” นพ.จักรรัฐ กล่าว
นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มที่ยังคงต้องห่วงกังวลพิเศษ คือกลุ่ม 608 เนื่องจากอัตราผู้ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต ยังคงเป็นคนกลุ่มนี้ บางคนไม่ได้รับวัคซีน หรือ รับวัคซีนไม่ครบ ดังนั้นควรมารับวัคซีนตามกำหนด และอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจสถานการณ์การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นว่า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่ควรติดตามดูจำนวน คนที่ป่วยหนัก และใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะกลุ่มนี้เหล่านี้ คือคนที่มีอาการต้องนอนรักษาตัวในรพ.เท่านั้น ขณะเดียวกัน เมื่อมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะเห็นว่า ตัวเลขแรงงานลักลอบเข้าเมืองเพื่อมามีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็มีมากขึ้น ดังนั้นนายจ้าง ต้องเร่งนำแรงงานที่เข้ามารับวัคซีน ให้ครบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามคาดว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อน่าจะสูงสุดราวกลางเดือน มี.ค. แต่หากทุกคนช่วยกันระวังตัว โอกาสป่วยติดเชื้อก็จะลดลงได้