‘อนุทิน’ รุดเยี่ยมคนไทยหนีสงครามยูเครน ย้ำ! ให้กักตัวเฝ้าระวังโควิดทุกราย

‘อนุทิน’ รุดเยี่ยมคนไทยหนีสงครามยูเครน ย้ำ! ให้กักตัวเฝ้าระวังโควิดทุกราย

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศยูเครน ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยเข้ารับการดูแลกักตัวที่ศูนย์ Quarantine Center ของสถาบันบำราศนราดูร

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มาต้อนรับแรงงานไทยที่กลับมาจากยูเครน ตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทำทุกวิถีทางเะอให้คนไทยในยูเครนกลับสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด ซึ่งทราบมาว่า เรามีแรงงานไทยทำงานในยูเครน 139 คน วันนี้เดินทางกลับมาแล้วชุดแรก 38 คน และช่วงบ่ายอีก 58 คน รวม 96 คน ส่วนที่เหลือจะทยอยเดินทางกลับคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้

นายอนุทิน กล่าวว่า แรงงานไทยที่กลับมา ได้ให้มาอยู่ที่ Quarantine Center สถาบันบำราศฯ เนื่องจากแรงงานเหล่านี้ไม่มีเวลาลงทะเบียน Thailand Pass หรือเข้าระบบ Test&Go จึงเปิดศูนย์แห่งนี้เพื่อทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ส่วนใหญ่ไม่พบเชื้อ โดยพบเชื้อเพียง 3 คน เป็นกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ ซึ่ง สธ.ได้ให้การดูแลรักษาตามอาการของโรคเรียบร้อยที่สถาบันบำราศนราดูร ส่วนที่เหลือจะกักตัวเฝ้าระวังอาการตามแนวทาง 7+3 โดยจะมีการตรวจ ATK ในช่วงวันที่ 5 หากผลเป็นลบ เมื่อครบวันที่ 7 ก็สามารถเลือกอยู่เฝ้าสังเกตอาการต่อได้ หรือเดินทางกลับบ้านหรือภูมิลำเนา ส่วนระหว่างกักตัวหากมีอาการก็สามารถแจ้งได้ทันทีผ่านระบบหมอชนะ

Advertisement

“รัฐบาลไทยดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือคนไปทำงานต่างประเทศ กรณีลี้ภัยสงคราม ให้ผู้เดินทางกลับมาด้วย จากการสอบถามทุกท่านดีใจที่กลับมาเมืองไทยได้ และพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ในยูเครนรับวัคซีนสองเข็ม ซึ่งเราจะจัดวัคซีนเข็ม 3 ก่อนกลับบ้าน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันว่าจะปลอดภัยจากโควิด” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ช่วงที่เดินทางกลับภูมิลำเนา จะมีการแจกชุดตรวจ ATK เพื่อใช้ตรวจหาเชื้อด้วย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะร่วมกับแรงงานจังหวัดในการติดตามดูแลช่วยเหลือในระยะต่อไป ส่วนการดูแลสุขภาพจิตนั้น แรงงานเหล่านี้ออกจากเมืองอันตรายมาอยู่บ้านเกิด เป็นใครก็ต้องดีใจ ซึ่งเท่าที่คุยขวัญกำลังใจดี ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่เมืองหลวงหรือเมืองเคียฟ แต่อยู่ทางตอนใต้ ซึ่งสถานการณ์ยังไม่รุนแรง แต่ถ้าใครมีปัญหาก็ต้องสอบถามก่อนให้เดินทางกลับ แต่คิดว่าเราดูแลเขาอยู่ตรงนี้ขวัญกำลังใจก็กลับมาเยอะ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image