พบจุดความร้อนอีก 775 จุด กระจายในหลายพื้นที่ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอนหนักสุด 135 จุด

พบจุดความร้อนอีก 775 จุด กระจายในหลายพื้นที่ ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอนหนักสุด 135 จุด

วันที่ 14 มีนาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า-GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) วันที่ 13 มีนาคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 775 จุด พบมากที่สุดในพื้นที่เกษตร 226 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 167 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 157 จุด พื้นที่เขต สปก. 110 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 102 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 13 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุด คือ แม่ฮ่องสอน 135 จุด สกลนคร 64 จุด อุบลราชธานี 44 จุด ตามลำดับ

 

จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนเริ่มกระจายตัวหนาแน่นไล่ตั้งแต่ตอนกลางไปจนถึงตอนบนของประเทศ นำโดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งวันนี้พบ 426 จุด ส่วนใหญ่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่เกษตร คาดว่าน่าจะเกิดจากการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ ส่วนเช้าวันนี้ (14 มีนาคม) เวลา 10.00 น. หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) อยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลต่อสุขภาพไปจนถึงมีผลต่อสุขภาพ ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจุดความร้อนตั้งแต่ 1 มกราคม-13 มีนาคม 2565 พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจุดความร้อนแล้ว 10,949 จุด ตามด้วยภาคเหนือ 9,197 จุด และภาคกลาง 5,634 จุด ตามลำดับ

Advertisement

สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาครองแชมป์ต่อเนื่องวันที่ 15 ซึ่งวันนี้พบ 4,097 จุด รองลงมาอันดับ 2 เป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 2,372 จุด และอันดับที่ 3 เป็นราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 2,090 จุด ตามลำดับ ข้อมูลจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในประเทศไทย เนื่องจากมีลมพัดฝุ่นละอองและหมอกควันเข้ามา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ

ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THOES-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image