อว.สร้างคน AI ปั้นไทย สู่เวทีโลก

อว.สร้างคน AIž ปั้นไทยžสู่เวทีโลก

AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศอย่างมาก

เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์นับเป็นเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่หลากหลาย

ดังนั้น การสร้าง คน AIŽ จึงมีความสำคัญเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน 7 ด้าน คือ 1.ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ 2.ด้านการเงินและธุรกิจ 3.ด้านการศึกษา 4.ด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 5.ด้านโลจิสติกส์ 6.ด้านอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร และ 7.ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล

Advertisement

ศ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์

 

การสร้าง คน AIŽ จะถูกสร้างผ่านกลไกของระบบการศึกษายุคใหม่ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คือ หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และคอมพิวเตอร์ให้กับประเทศ

Advertisement

โดยมีคณาจารย์จากเครือข่ายมหาวิทยาลัยปัญญาประดิษฐ์ไทย 6 แห่ง ร่วมกันดำเนินการ ได้แก่ ม.ซีเอ็มเคแอล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ม.มหิดล ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ และ ม.สงขลานครินทร์ ผ่านการดำเนินการร่วมภายใต้สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานภายใต้มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ที่มีหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัย มีการแบ่งปันทรัพยากรระหว่างมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเข้าร่วมศึกษาแลกเปลี่ยนและปฏิบัติงานวิศวกรรมและวิจัยกับทีมงานระหว่างมหาวิทยาลัยได้

อว.กำลังจัดทำหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และคอมพิวเตอร์ให้กับประเทศ ผ่านกระบวนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยเป็นความร่วมมือของ 6 มหาวิทยาลัย ได้แก่ ม.ซีเอ็มเคแอล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ม.มหิดล ม.ขอนแก่น ม.เชียงใหม่ และ ม.สงขลานครินทร์ ผ่านการดำเนินการร่วมภายใต้สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ ทั้งนี้ การจัดการเรียนการสอนในหลักสูตร

ดังกล่าวจะเน้นสมรรถนะของผู้เรียน ผ่านการจัดการศึกษาร่วมกันของทั้ง 6 มหาวิทยาลัย โดยนักศึกษาสามารถเรียนในบางรายวิชาข้ามมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งมีทั้งเรียนแบบในชั้นเรียนและแบบออนไลน์Ž ศ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวถึงการพัฒนากำลังคนด้าน AI ให้กับประเทศ พร้อมระบุว่า

หลักสูตรนี้จะเน้นการพัฒนากำลังคนด้าน AI เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศใน 7 ด้าน คือ 1.ด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ 2.ด้านการเงินและธุรกิจ 3.ด้านการศึกษา 4.ด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 5.ด้านโลจิสติกส์ 6.ด้านอุตสาหกรรมเกษตรอาหาร และ 7.ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล

การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบเน้นสมรรถนะ จะทำให้ผู้ประกอบการหรือองค์กรที่มีความต้องการรับบุคลากรด้าน AI ไปทำงานต่อ มีความชัดเจน นอกจากนี้ ยังทำให้มหาวิทยาลัยสามารถสร้างบุคลากรที่มีความหลากหลายของสมรรถนะ โดยไม่จำเป็นต้องคอยสร้างปริญญาใหม่ตลอดเวลา เช่น นักศึกษาบางคนอยากเน้นด้านความปลอดภัยไซเบอร์และด้าน AI นักศึกษาบางคนอยากเน้นด้านการออกแบบประสบการณ์และปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้และด้าน AI ก็ได้เช่นกัน การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้จะทำให้นักศึกษามีทางเลือกเพื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้ โดยหลักสูตรนี้คาดว่าจะเริ่มจัดการเรียนการสอนได้ในปีการศึกษา 2565 นี้ ตั้งเป้าว่าในปี 2565-2572 จะผลิตผู้สำเร็จการศึกษาให้ได้ 1,000 คน หรือเฉลี่ย 200 คนต่อปีŽ รมว.อว.กล่าว

อักฤทธิ์ สังข์เพ็ชร

ขณะที่ นายอักฤทธิ์ สังข์เพ็ชร ผอ.โครงการคาร์เนกีเมลลอน-KMITL (Carnegie Mellon-KMITL) มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ในฐานะแกนนำผู้จัดทำหลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ เพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และคอมพิวเตอร์ให้กับประเทศ กล่าวว่า หลักสูตรแซนด์บ็อกซ์ด้านวิศวกรรม AI และคอมพิวเตอร์ เป็นหลักสูตรที่คณะทำงานถอดบทเรียนมาจากประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านงานวิจัยและพัฒนาที่ทำร่วมกับมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน ประเทศสหรัฐอเมริกา มามากกว่า 12 ปี ซึ่งคาร์เนกีเมลลอนถือเป็นแหล่งกำเนิดของซอฟต์แวร์ AI ตัวแรก และเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกในด้าน AI โดยหลักสูตรที่เราดำเนินการได้พัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่คลอบคลุมทั้งสี่ด้านของสาขาวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineering)

อันประกอบไปด้วย เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (AI & Machine Learning), เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System), ความปลอดภัยไซเบอร์และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Cybersecurity & Privacy) และการออกแบบระบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (Human-Centered Design) ซึ่งนักศึกษาสามารถเลือกเรียนและทำโครงการวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่แต่ละมหาวิทยาลัยดำเนินงานร่วมกับผู้ประกอบการชั้นนำได้ตั้งแต่เข้าเรียน

โดยเครือข่ายมหาวิทยาลัยจะร่วมกันพัฒนาบุคลากรผ่านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อประยุกต์ใช้หลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านการแพทย์ ธุรกิจการเงิน เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การศึกษา การค้าและโลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งทางหลักสูตรมุ่งเน้นการสร้างบัณทิตที่มีทักษะการพัฒนาเทคโนโลยี AI ด้วยกระบวนการทางวิศวกรรมที่คำนึงถึงผู้ใช้ และสามารถวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์และระบบเพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่จำเป็นต่อการพัฒนาของประเทศ

ทั้งนี้ นักศึกษาที่เรียนในหลักสูตรนี้จะได้ลงไปทำงานจริงตั้งแต่ปีแรก ทั้งในฟาร์ม ในโรงงาน ในชุมชน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

ที่สำคัญนักศึกษาจะได้ร่วมเรียนรู้จากคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกทั้งที่อยู่ที่ ม.ซีเอ็มเคแอล ม.คาร์เนกีเมลลอน และจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งต่างมาช่วยกันพัฒนาและขับเคลื่อนการศึกษาและความรู้ด้านวิศวกรรม AI และคอมพิวเตอร์ของไทย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่แข่งขันในเวทีโลกได้Ž นายอักฤทธิ์ระบุ

นี่คือกระบวนการปั้น คน AIŽ ให้กับประเทศ และถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวของการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศในยุคของ ศ.เอนก เหล่าธรรมทัศน์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image